รถหรูอย่าง Rolls-Royce นั้นยังขายได้เติบโตในปี 2022 แม้สภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มจะไม่เป็นใจ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำยอดขายสถิติสูงสุดใหม่ ขณะเดียวกันเหล่ามหาเศรษฐีทั่วโลกยังต้องการรถหรูจากแบรนด์ดังกล่าวอยู่ และไม่มีทีท่าลดลงด้วยซ้ำ
Torsten Müller-Ötvös ซึ่งเป็น CEO ของผู้ผลิตรถยนต์หรูจากอังกฤษอย่าง โรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ชี้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเหล่ามหาเศรษฐียังซื้อรถหรูอยู่ในปี 2022 ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทได้รายงานยอดขายทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 119 ปี
ในปี 2022 ที่ผ่านมา Torsten ได้ชี้ว่ายอดขายรถยนต์ของบริษัทนั้นสูงถึง 6,021 คัน มากกว่าในปี 2021 ที่บริษัททำยอดขายได้ 5,586 คัน ซึ่งถือว่าทำลายสถิติยอดขายสูงสุด 119 ปีของบริษัท
รายได้สำคัญของบริษัทนั้นยังมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 35% ขณะที่ประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งรายได้อันดับ 2 ของ Rolls-Royce กลับมียอดขายลดลง สาเหตุสำคัญมาจากเศรษฐกิจในประเทศจีนจากผลกระทบของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แต่บริษัทได้ยอดขายจากพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกมาทดแทน
ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังเตรียมที่จะออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Spectre ภายในปลายปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวสามารถทำความเร็วๆ 0-100 กิโลเมตรได้ภายในระยะเวลา 4.5 วินาที
ราคาเฉลี่ยรถยนต์ของบริษัทที่ขายในปี 2022 นั้นอยู่ที่ 534,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 17.9 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากลูกค้าของบริษัทต้องการที่จะปรับเปลี่ยนสเปคของรถให้เหมาะสมกับตัวเอง ตั้งแต่วัสดุภายในรถยนต์ไปจนถึงสีของรถยนต์
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมที่จะเปิดโชว์รูมแบบพิเศษที่บริษัทจะเชิญลูกค้าเท่านั้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการไปแล้วที่ดูไบ และจะขยายรูปแบบบริการดังกล่าวทั่วโลกในภายหลัง
CEO รายดังกล่าวยังชี้ว่ายอดจองรถยนต์หรูในปี 2023 นี้ยังแข็งแกร่ง นอกจากนี้แม้บริษัทจะไม่จำหน่ายรถยนต์ในประเทศรัสเซียจากมาตรการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตก ก็ยังไม่ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก แม้ว่ายอดขายรถหรูในรัสเซียของบริษัทจะมากถึงปีละ 250-300 คันต่อปีก็ตาม