บางจากประกาศเข้าซื้อกิจการของ ESSO ในประเทศไทย ทำให้มีเครือข่ายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,100 สถานี ส่งผลทำให้บริษัทมีสัดส่วนในธุรกิจปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 25% นอกจากนี้ยังได้ธุรกิจโรงกลั่น รวมถึงเครือข่ายคลังน้ำมัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับบริษัทในอนาคต
บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) จาก ExxonMobil
ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อกิจการนั้น BCP จะซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% จาก ExxonMobil เป็นมูลค่า 20,188 ล้านบาท อิงราคาเบื้องต้นหุ้นละ 8.84 บาท และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง หลังจากทำธุรกรรมดังกล่าวแล้วเสร็จนั้นทางบางจากจะประกาศซื้อหุ้นอีก 34.01% ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือ
การลงทุนครั้งนี้ของบางจากที่จะได้มาคือโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ ESSO จะทำให้บางจากมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง
ดีลดังกล่าวยังทำให้บางจากนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นมาเป็น 25% จากเดิม 15% ซึ่งจะทำให้บางจากเป็นรองแค่ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เท่านั้น
สำหรับแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการนั้น ทาง BCP ชี้แจงว่าจะใช้เงินทุนหลากหลายช่องทางในการเข้าซื้อไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อจากสถาบันการเงิน รวมถึงกระแสเงินสดภายในบริษัท
โดยหลังจากการขายกิจการ ESSO ออกไปแล้วนั้นทาง ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป
คาดว่าดีลในการซื้อหุ้นสัดส่วน 65.99% ทางบางจากและ ExxonMobil คาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จได้สำเร็จภายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ขึ้นอยู่กับหน่วยงานกำกับดูแลรวมถึงการอนุมัติของผู้ถือหุ้น ESSO หลังจากนี้