ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวว่าปัญหาเงินฝืดที่ตามหลอกหลอนเศรษฐกิจญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลายาวนานอาจยังไม่หมดไป แม้ว่าล่าสุดญี่ปุ่นจะมีตัวเลขเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 42 ปีก็ตาม โดยตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นล่าสุดนั้นอยู่ที่ 4% มากกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ 2%
โดยความเห็นดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายนี้ตามหลังมาจากการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ที่ทำลายสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 42 ปี ซึ่งมีแรงกดดันจากนักลงทุนให้ญี่ปุ่นประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อที่จะสกัดเงินเฟ้อ และยุตินโยบาย Abenomics
นายกรัฐมนตรีรายนี้ยังได้กล่าวกับสภาสูงของญี่ปุ่นว่า ปัญหาเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นมาจากราคาพลังงาน ต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ที่สูงขึ้น รวมถึงค่าเงินเยนที่อ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่ปัญหาในส่วนความต้องการของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านี้เขายังกล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ญี่ปุ่นไม่ถือว่าอยู่ในสภาวะเงินฝืด แต่สภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าการกลับมาของปัญหาเงินฝืดนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลกประสบปัญหาเงินฝืดมาเป็นระยะเวลายาวนาน จนท้ายที่สุดอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ต้องใช้มาตรการ Abenomics ซึ่งหนึ่งในมาตรการดังกล่าวคือการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการอัดสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน ไปจนถึงการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำติดดิน ซึ่งทำให้ท้ายที่สุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถออกจากปัญหาเงินฝืดได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มหารือข้อดีรวมถึงข้อเสียของนโยบายดังกล่าว และคาดว่านโยบาย Abenomics ที่ใช้ระยะเวลาถึง 10 ปีกำลังอาจถึงจุดสิ้นสุดได้ในเร็วๆ นี้
ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดจาก Bank of America คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2023 นี้ GDP จะเติบโต 1.2% ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3% โดยสถาบันการเงินรายนี้คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นจะลดลงเหลือ 2.5% ภายในปี 2024
ที่มา – Reuters