รับมือแก๊งป่วน “ซูชิสายพาน” Kura Sushi เตรียมใช้กล้อง AI จับพฤติกรรมผิดปกติในร้าน

ซูชิสายพาน
(Photo: Kura Sushi USA)
คดีแก๊งป่วน “ซูชิสายพาน” ในญี่ปุ่นส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อร้านอาหาร ล่าสุดหนึ่งในซูชิเวียนเจ้าดังอย่าง “Kura Sushi” ออกไอเดียติดกล้อง AI จับภาพพฤติกรรมผิดปกติในร้าน และแจ้งเตือนให้พนักงานเข้าตรวจสอบทันที

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคดีป่วน “ซูชิสายพาน” กลายเป็นประเด็นดังระดับชาติในญี่ปุ่น เรื่องเริ่มต้นจากคลิปในโซเชียลมีเดียปรากฏภาพลูกค้าที่คอยหยิบแก้วน้ำ ขวดโชยุ หรือซูชิออกจากสายพานมา ‘เลีย’ แล้วรีบนำกลับไปวางบนสายพานอีกครั้ง เป็นการแกล้งให้ลูกค้าคนอื่นในร้านหยิบสิ่งที่สกปรกปนเปื้อนเหล่านี้ไปทานต่อโดยไม่รู้ตัว จุดประสงค์เพื่อความสนุกตลกขบขันบนโซเชียล

คลิปลักษณะนี้กลายเป็นไวรัลและมีพฤติกรรมเลียนแบบตามมาในหลายจังหวัดและหลายร้านซูชิเวียนของญี่ปุ่น ถึงขนาดทำให้หุ้นของ Food & Life Companies บริษัทแม่ของร้าน Sushiro ร่วง 4.8% เพราะผู้บริโภคไม่กล้าไปทาน แม้ว่าร้าน Sushiro จะตามตัวผู้กระทำผิดจนเจอและดำเนินการฟ้องร้อง แต่ดูเหมือนพฤติกรรมเลียนแบบยังไม่จบสิ้น แถมยังขยายผลไปที่ร้านอาหารรูปแบบอื่นๆ ด้วย

ล่าสุดเชนร้านซูชิสายพานเจ้าดัง Kura Sushi ประกาศว่าบริษัทกำลังวางแผนจะติดตั้งกล้องเทคโนโลยี AI ในร้านเพื่อตรวจจับพฤติกรรมน่าสงสัยของลูกค้า โดยจะเริ่มติดตั้งทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่มากของร้าน เพราะ Kura Sushi มีกล้องติดตั้งอยู่แล้วในร้าน แต่ปกติใช้เพื่อนับจำนวนจานบนสายพาน และใช้คำนวณค่าอาหาร ดังนั้น นี่จึงเป็นการเพิ่มเทคโนโลยีให้ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติเพิ่ม และจะติดตั้งระบบให้สัญญาณพนักงานให้ไปตรวจสอบ ถ้าเจอสิ่งผิดปกติ

สำหรับ Kura Sushi เป็นบริษัทซูชิสายพานเจ้าใหญ่ที่เปิดมานาน 46 ปี ปัจจุบันเปิดบริการมากกว่า 500 สาขาใน 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐฯ โดยในญี่ปุ่นถือเป็นเชนซูชิเวียนระดับ Top 3 ในแง่จำนวนสาขา

Source