“เอ ศุภชัย” มาตรฐาน “เจิด” รับ T-Pop

เมืองจีนและหลายประเทศในเอเชีย เปิดรับ T-Pop แล้วอย่างเต็มที่ และนี่เองที่ทำให้เส้นทางของดารายาวไกลและมีทางเลือกมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจของนักปั้นดาราคึกคักมาอีกระดับหนึ่ง  วงการนี้จะวางตัว จัดลำดับความดังกันอย่างไร คำถามที่ต้องฟังคำตอบ จากใครเป็นอื่นไม่ได้ ต้องเป็น “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” นักปั้นมือทองของวงการเท่านั้น

หลายคนอาจคิดว่า “เอ” ต้องไปหาตลาดให้นักแสดงที่เมืองจีน แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะ ”เอ” อ ยู่กับที่งานก็เข้าไม่ขาดสายแล้ว

“ไม่ได้ไปเมืองจีนเองค่ะ มีแต่เขามาหา ล่าสุดก็มีมาคุยติดต่อให้ร่วมแสดงหนัง ติดต่อน้องมาริโอ้ (เมาเร่อ) ก็ยังไม่ได้ตอบตกลง เพราะคิวน้องไม่ได้เลย ตอนนี้ที่เมืองไทยเองดีมานด์ก็มาก ซัพพลายให้ไม่พออยู่แล้ว”

“เอ” ที่วันนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วกับงานที่ล้นมือ เพราะมีดาราเบอร์ใหญ่ คิวทองชนิดที่ว่ามีคิวยาวจนหาที่สุดไม่ได้อยู่ในสังกัดหลายคน ตั้งแต่ซุป’ตาร์ตัวแม่อย่างอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ จนถึง ซุป’ตาร์เลือดใหม่อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ณ เดชน์ คูกิมิยะ และล่าสุด “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ZA

ที่ดังเปรี้ยงปร้าง เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังที่สุดจากแฟนชาวจีน และไต้หวันเวลานี้คือ ”มาริโอ้” ที่ไปโชว์ตัวที่นั่นมาแล้วหลายรอบ หลังจากหนังเรื่อง ”รักแห่งสยาม และ สิ่งเล็ก เล็กที่เรียกว่ารัก” ถูกดูผ่านออนไลน์แล้วนับไม่ถ้วน

เรตติ้งแรงถึงขั้นที่ว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ 4+1 Channel 3 Superstar ที่ช่อง 3  จัด “เอ” บอกว่ามีแฟนคลับจีนติดต่อมากันจำนวนมากว่าจะมาดูคอนเสิร์ต เพราะมีศิลปินใหม่ที่กำลังดังอย่างหมาก ปริญญ์ ณเดชน์ บอย ปกรณ์ มาริโอ้ และคนใหม่ เคน ภูภูมิ ซึ่ง ”เอ” บอกว่าขนาดจะบินข้ามประเทศมา ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะหาบัตรให้แฟนคลับได้มากแค่ไหน เพราะอย่างที่บอกว่าดีมานด์ในประเทศก็มากล้นแล้ว 

ปรากฏการณ์ T-Pop ที่มาแรงนี้ ในฐานะนักปั้นแล้ว “เอ” บอกว่าเรื่องหน้าตาดาราไทยถือว่าเป็นที่ถูกใจแฟนๆ เพราะหน้าตาเป็นกลางๆ มีใบหน้าที่ดูแล้วเป็นที่รัก หล่อ และสวย อย่างน้องอั้มที่แฟนๆ บอกว่าสวยจังเลย หรืออย่างน้องมาริโอ้ก็เป็นลูกครึ่งที่มีเชื้อสายจีน ก็ยิ่งถูกใจแฟนคลับจีนมากขึ้น

เมื่อหน้าตาดีมาแล้ว ถือเป็นต้นทุนดี ก็เหลือการปั้นต่อ ซึ่ง ”เอ” บอกว่าด้วยเป้าหมาย และมาตรฐานระดับ ”เอ ศุภชัย” แล้ว ต้องปั้นให้ดารามีความสามารถ และเป็นมืออาชีพ เทียบเท่าในระดับสากล ที่ทำตามเป้าหมายนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีกระแส T-Pop  ด้วยซ้ำ

อย่างกรณีของ ณเดชน์ ก็ถูกบังคับเพื่อให้นั่งรถทัวร์ไปกลับกรุงเทพฯ-ขอนแก่น หลายสิบรอบเพื่อฝึกความอดทน เป็นการฝึกทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องการแสดง เพื่อรับการทำงานแบบเข้มมากที่สุด เพื่อให้คุณภาพออกมาในแบบที่เขาเรียกว่า ”คับแก้ว” 

นอกจากนี้ความเตรียมพร้อมเพื่อความอินเตอร์ในมุมของภาษานั้น ไม่ได้เพิ่งมาเข้มตอนนี้ เพราะเด็กในสังกัด ”เอ” ฝึกภาษาอังกฤษกันมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้เรียนภาษาจีนจริงจัง  ส่วนใครที่ภาษาดีมาก่อนนั้น ถือเป็นต้นทุนที่ดีอยู่แล้วของแต่ละคน

ในเวลานี้การเติบโตของดารานั้น “เอ” เปรียบเทียบว่าก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ที่เริ่มต้นยังเป็นต้นไม้เล็กๆ อยู่ก็เจาะกลุ่มผู้ชมเด็กวัยรุ่น เมื่อโตขึ้น ก็เหมือนต้นไม้ที่แข็งแรงขึ้น ก็พร้อมเจอกับสิ่งต่างๆ มากขึ้น ต้องทำงานมากขึ้น เจอพายุก็ไม่ล้ม นี่คือการฝึกฝนอย่างหนักมาตั้งแต่เริ่มต้น 

จากกระแส T-Pop ที่แรงไม่หยุด แต่ซัพพลายที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอ “เอ” จึงมีเด็กๆ ที่มาจากเพื่อนในประเทศต่างๆ ทั้งลาว เขมร ในคอนเซ็ปต์ที่ ”เอ”บอกว่าเอาลูกๆ มาปั้น ฝากเลี้ยงกัน เพื่อเป็นดาราในอนาคต ซึ่งโอกาสมีทั้งในไทยและตลาดต่างประเทศ 

แม้ว่านี้ภารหน้าที่ยังเน้นตลาดในเมืองไทยเป็นหลัก แต่ทุกครั้งที่เขานั่งเครื่องบินแล้วมองลงมาที่จีน ฟิลิปปินส์ “เอ” บอกว่าล้วนมองเห็นโอกาสทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ณ วันนี้เขาแคร์แฟนคลับชาวไทยมากกว่า ซึ่งหมายถึงการป้อนศิลปินให้ตลาดไทยอย่างเพียงพอก่อน ส่วนการโกอินเตอร์เหมือนอย่างมาริโอ้นั้นก็เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่เคยทำไว้อยู่แล้ว 

แน่นอนคำถามที่ไม่ควรพลาดคือ แล้ว ”เอ” เรียกค่าตัวเพิ่มไหม เขาบอกว่า “ไม่ค่ะ เพราะไม่ใช่เห็นว่ามีโอกาสแล้วจะให้จ่ายเพิ่ม เพราะแบบเอมีมาตรฐานมาตั้งแต่ต้นแล้วคือ ”สูง”