Taylor Swift นักร้องสาวชาวสหรัฐฯ ที่กำลังจะเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตในทวีปเอเชียในช่วงปี 2024 นี้ เธอได้ทำรายได้ในการทัวร์คอนเสิร์ตในแต่ละคืนมากกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐต่อคืน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 452 ล้านบาท และจะทำให้เธอกลายเป็นศิลปินที่สร้างรายได้จากการออกทัวร์คอนเสิร์ตมากที่สุด
อ้างอิงข้อมูลจาก Pollstar ซึ่งเป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิง รายงานว่านักร้องสาวชาวสหรัฐฯ ทำเงินจากการทัวร์ในสหรัฐฯ มากถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในระยะเวลา 22 วันของการทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งในตางรางการแสดงของเธอในสหรัฐอเมริกามีทั้งหมด 50 ทัวร์ด้วยกัน
ขณะเดียวกัน Pollstar ได้ประเมินว่าการทัวร์คอนเสิร์ตของเธอในต่างประเทศในชื่อ Eras Tour นั้นอาจทำเงินได้มากถึง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโชว์ของ Taylor Swift ถือเป็นทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปิน 7 ใน 25 ที่ขายดีสุดและมีตั๋วคอนเสิร์ตเฉลี่ยมากกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ
ไม่เพียงเท่านี้ทัวร์คอนเสิร์ตของ Taylor Swift ถ้าหากไปย้อนดูราคาตั๋วคอนเสิร์ตเฉลี่ยจะอยู่ไม่เกิน 120 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าหากทัวร์ล่าสุดของเธออย่าง Eras Tour เฉลี่ยราคาตั๋วออกมาแล้วจะอยู่ที่ราวๆ 254 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 8,800 บาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ถ้าหากเทียบ Eras Tour กับ Speak Now ซึ่งเป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของ Taylor Swift เองนั้นค่าตั๋วคอนเสิร์ตของเธอเพิ่มขึ้นมามากกว่า 3 เท่าแล้ว
ข้อมูลจาก Pollstar เองยังชี้ถึงราคาตั๋วคอนเสิร์ตในปัจจุบันที่แพงมากขึ้น ซึ่งถ้าหากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วตั๋วคอนเสิร์ตที่มีราคาเฉลี่ยเกิน 200 ดอลลาร์สหรัฐนั้นมีเพียงแค่ Britney Spears และ Celine Dion โดยราคาเฉลี่ยของตั๋วคอนเสิร์ตของศิลปินที่ขายดี 25 รายนั้นอยู่ที่ราวๆ 136 ดอลลาร์เท่านั้น
อย่างไรก็ดีไม่ว่าตั๋วคอนเสิร์ตของ Taylor Swift จะมีราคาแพงในปัจจุบันมากแค่ไหน แต่แฟนคลับของเธอทั่วโลกมากถึงหลักล้านคนต่างรอแย่งที่จะเข้าชมการแสดงของเธอ ส่งผลทำให้เธออาจเป็นศิลปินที่รับรายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตมากที่สุดในปี 2023 ได้