Linkedin ปลดพนักงานออก 716 ตำแหน่ง เตรียมปิดตัวแอปหางานในจีนหลังสู้คู่แข่งไม่ได้

ภาพจาก Pexels

Linkedin แพลตฟอร์มสำหรับหางาน ซึ่งมีเจ้าของคือ Microsoft ล่าสุดนั้นเตรียมที่จะปิดตัวแอปหางานในประเทศจีน นอกจากนี้ยังจะมีการปลดพนักงานอีก 716 ตำแหน่ง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป รวมถึงบริษัทต่างๆ นั้นมีการใช้จ่ายลดลง

Linkedin แพลตฟอร์มสำหรับหางานชื่อดัง ได้ประกาศปลดพนักงาน 716 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายสนับสนุน ซึ่งบริษัทได้กล่าวว่าการปลดพนักงานออกนั้นจะทำให้มีตำแหน่งงานเกิดขึ้นใหม่มากถึง 250 ตำแหน่ง และยังทำให้การบริหารงานของบริษัทนั้นลดความยุ่งยากลง

ตัวแทนของ Linkedin ได้กล่าวกับ RTE ว่าพนักงานที่โดนปลดไป 716 คนสามารถกลับมาสมัครในตำแหน่งงานใหม่ได้ถ้าหากตำแหน่งงานเหมาะสม

นอกจากนี้ Linkedin ได้กล่าวถึงการปิดตัว InCareer ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหางานในประเทศจีนเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังรวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง โดยแอปดังกล่าวต้องชนกับคู่แข่งที่ชื่อว่า Maimai ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นส่วนใหญ่

แอปพลิเคชัน InCareer เปิดตัวเมื่อปี 2021 เพื่อที่จะเป็นทางเลือกของคนหางานในประเทศจีนที่มีตลาดผู้หางานในหลักหลายสิบล้านคน หลังจากที่ Linkedin ได้ประกาศถอนตัวจากประเทศจีนเหลือเพียงธุรกิจบางส่วน โดยบริษัทให้เหตุผลไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันของธุรกิจในจีนที่รุนแรง บริษัทต้องทำตามข้องกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลที่ยากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความท้าทายในการทำธุรกิจในแดนมังกรช่วงที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้บริษัทแม่อย่าง Microsoft ได้มีการปลดพนักงานมากถึง 10,000 ราย โดยให้เหตุผลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการลงทุนด้าน AI นอกจากบริษัทอย่าง Microsoft ก็ยังมีบริษัทเทคยักษ์ใหญ่เช่น Amazon Meta ฯลฯ ที่ได้ปลดพนักงานจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

โดยตัวเลขจากทาง Laysoff.fyi ที่ได้ติดตามการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีนั้น ปี 2023 นี้มีการปลดพนักงานจากบริษัทเทคโนโลยีไปแล้วมากกว่า 190,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ดีแม้จะมีการปิดตัว InCareer ไปแล้ว แต่บริษัทจะยังคงสำนักงานไว้ในประเทศจีนไว้สำหรับการจ้างพนักงานในจีน รวมถึงจัดการอบรมหรือฝึกฝนพนักงาน ซึ่ง Linkedin เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากต่างชาติไม่กี่บริษัทที่ยังมีสำนักงานและยังเหลือธุรกิจบางส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากยังเหลือธุรกิจบางส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ทาง Linkedin เตรียมใช้งานบริษัทภายนอกมาช่วยในการขยายธุรกิจในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งรวมถึงในจีนด้วย

ที่มา – TechCrunch, RTE, BBC