เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ประกาศรุกธุรกิจให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจร ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เปิดตัว 6 บริการหลัก รองรับลูกค้าธุรกิจค้าปลีกและ E-commerce ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะขยายธุรกิจเพิ่มเติมในอาเซียนนอกจากประเทศไทยและมาเลเซียหลังจากนี้
ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ได้กล่าวถึงข้อมูลจาก IDC ถึงการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐาน เป้าหมาย การดำเนินธุรกิจ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า Digital Transformation ทั่วโลกภายในปี 2026 จะใช้เม็ดเงินมากถึง 3.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่เขาก็ได้ชี้ว่าในเม็ดเงินดังกล่าวนี้อาจมีความล้มเหลว เนื่องจากไม่มีคนที่ช่วยทำให้สิ่งดังกล่าวสำเร็จ
สำหรับอุตสาหกรรมทางค้าปลีกได้ใช้เงิน 388 ล้านเหรียญทำ Digital Transformation มีทั้งการลงทุนใน Big Data รวมถึงการใช้ AI เข้าไปในธุรกิจ เพื่อทำให้ธุรกิจฉลาดมากขึ้น มีประสิทธิภาพในองค์กรมากขึ้น เขายังกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวสำคัญมากสำหรับประเทศไทย เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่แค่เข้าใจลูกค้า แต่ทำอย่างไรที่ทำให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น
เขายังชี้ถึงว่าทำไมข้อมูล (Data) จึงมีความสำคัญมาก ปัจจัยสำคัญคือ ต้นทุนในการเก็บข้อมูลลดลงมาก สามารถเก็บข้อมูลปริมาณได้มากขึ้น เทคโนโลยีต่างๆ ยังทำให้เก็บข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำเครื่องมือถือสถิติและคณิตศาสตร์เข้ามา เขาได้เผยว่า EGG Digital มีโมเดลด้านสถิติเพื่อวิจัยลูกค้ามากถึง 20,000 โมเดล นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีอื่นๆ มาวิเคราะห์ลูกค้ามากกว่าเดิม เพื่อเข้าใจลูกค้าได้อย่างถ่องแท้
ขณะเดียวกันในแผนธุรกิจปี 2023 นี้ EGG Digital ได้เปิดตัวบริการ 6 บริการ ได้แก่
1. บริการให้คำปรึกษากับธุรกิจค้าปลีก (Retail Consulting) โดยการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเสนอเป็นแผนธุรกิจ หรือแคมเปญต่างๆ ให้แก่ลูกค้า
2. บริการให้คำปรึกษาด้านการใช้ข้อมูลเชิงลึกผ่านโซลูชันแพลตฟอร์ม (Insight Solutions) ซึ่งบริษัทจะทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการสร้างการเติบโตในธุรกิจค้าปลีก โดยนำข้อมูลของลูกค้า มาวิเคราะห์และเสนอแผนงานที่ตอบโจทย์แบรนด์ต่างๆ
3. บริการสื่อโฆษณาครบวงจร (Media Commercialization) โดย EGG Digital จะเป็นผู้ให้บริการสื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยใช้แพลตฟอร์มอัจฉริยะมาวางแผนการใช้สื่อให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับยอดขายของกลุ่มสินค้า แบรนด์ และผลิตภัณฑ์เพื่อให้แต่ละแบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและสร้างแคมเปญได้อย่างเหมาะสม
4. บริการมีเดีย เอเจนซี ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มโซลูชัน (Platform Solutions) – เพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของคู่ค้าด้วยบริการด้านแพลตฟอร์มโซลูชัน รวมถึงวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารที่เหมาะสมและตรงกับกับกลุ่มเป้าหมายลูกค้า รวมถึงพัฒนาเว็บไซต์และบริหารจัดการโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง
5. บริการด้าน SMS & Marketing Automation โดยบริษัทจะนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมแก่แบรนด์เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ LINE, Facebook, TikTok และโซเชียลมีเดียอื่นๆ รวมถึง SMS, Google SEO SEM
6. บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ (Data Analytics) นำข้อมูลมาบริหารจัดการและพัฒนาเป็นแผนงานที่ชัดเจน เพื่อสร้างประโยชน์แก่ธุรกิจและผู้บริโภคปลายทาง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน EGG Digital โฟกัสไปยังกลุ่มลูกค้า FMCG โดยมีลูกค้าที่เป็นแบรนด์ดังอย่าง Unilever Nestle Oishi เป็นต้น รวมถึงสถาบันการเงินบางรายที่ใช้ได้บริการของบริษัท
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เตรียมขยายธุรกิจมาทำ Shopper Digital Screen โดยเอาจอใหญ่คุณภาพสูงมาเป็นป้ายโฆษณา เช่น บริเวณป้ายของ Lotus’s โดยเริ่มต้นที่ 24 จุดที่มีปริมาณผู้คนหนาแน่น ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EGG Digital คาดหวังว่าจะทำรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วน 10-20% ของรายได้รวมหลังจากนี้
นอกจากนี้แผนของ EGG Digital ยังตั้งเป้าขยายธุรกิจไปยังอาเซียนให้ได้มากขึ้น นอกจากประเทศไทยและมาเลเซีย ธีรเดชยังมองว่าธุรกิจของบริษัทแตกต่างจากรายอื่น และไม่มีคู่แข่งประเภทนี้ที่ทำธุรกิจในไทย และจะสามารถขยายธุรกิจไปในละแวกอาเซียนหลังจากนี้ได้ ล่าสุดมีพาร์ตเนอร์จากอาเซียนเริ่มพูดคุยบ้างแล้ว