บ้านใหม่ของดังกิ้น โดนัท

นับเป็น Strategic Move อีกครั้งของวงการ เมื่อบริษัททรัพย์ศรีไทยหอบเงิน 1,320 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการ ดังกิ้น โดนัทและโอบองแปง เพราะมองเห็นโอกาสของธุรกิจเบเกอรี่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตปีละราว 15-20% ธุรกิจโดนัทมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท เติบโตปีละ 20% เนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสด มีกำไรสูง และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรและการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

แม้จะเปลี่ยนบ้านใหม่ แต่ยังคงใช้ผู้บริหารชุดเดิมนำโดยซาเวียร์ ซาลฮานี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้นโดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริหารทั้ง 2 แบรนด์มาตั้งแต่ปี 2546  

ซาลฮานี่ บอกกับ POSITIONING ว่า “มีหลายบริษัทแสดงความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นครั้งนี้  และได้มีการเจรจากับทรัพย์ศรีไทยมานานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยเจ้าของเดิมที่ตกลงขายหุ้นให้กับทรัพย์ศรีไทย คือ บริษัท NAVIS Capital Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้าน Private Equity Investment ที่แสวงหาผลกำไรจากการลงทุนซื้อขายธุรกิจอยู่แล้ว และได้เข้าซื้อหุ้นราว 60-70% จากกลุ่มทุนของสุรเดช นารูลา ซึ่งเป็นเจ้าของก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2549”

8 ปีที่เขาขับเคลื่อนทั้งดังกิ้น โดนัททำให้จากเดิมที่เผชิญกับส่วนแบ่งการตลาดลดลง กลับมาพลิกฟื้นและเติบโตได้อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้มีการปรับกลยุทธ์นำเสนอเครื่องดื่มกาแฟมากขึ้น ขณะที่โอบองแปงเองหลังจากแนะนำเบเกอรี่เพื่อสุขภาพก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้น จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่เขาได้บริหารต่อไป  

ส่วนตัวเขาเองมองว่าสัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) และทีมผู้บริหาร เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง และต้องการสร้างการเติบโตให้กับบริษัททรัพย์ศรีไทย เขาเชื่อว่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 แบรนด์ Aggressive มากยิ่งขึ้น

บริษัททรัพย์ศรีไทย เติบโตมาจากธุรกิจดูแลและจัดเก็บเอกสาร หรือคลังสินค้า ก่อตั้งในปี 2519 แม้ผลประกอบการไปได้ดี มีการขยายพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าต่อเนื่อง แต่การอยู่ในธุรกิจเดียวก็อาจเสี่ยงเกินไป อีกทั้งคลังสินค้าไม่ได้เป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่จะสร้างแวลูการเติบโตหวือหวา ทรัพย์ศรีไทยเริ่มแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นอนาคต เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ในปี 2553 จึงใช้เงิน 200 ล้านบาทในการเข้าซื้อหุ้น 99.7% จากบริษัท อุตสาหกรรมวิวัฒน์ (น้ำมันพืชทิพ ไวซ์ และริน) นับเป็นก้าวรุกครั้งแรกก่อนจะขยับมาสู่ธุรกิจ QSR ที่จะทำให้ธุรกิจของพวกเขามีสีสันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น 

ทรัพย์ศรีไทย คาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2553 นอกจากนี้ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการในปี 2555 เติบโตแบบก้าวกระโดด หรือเป็นเกือบ 2,000 ล้านบาท และในอนาคตนาดีมบอกว่ามีโอกาสสูงที่จะมีแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม 

ทั้งนี้ทรัพย์ศรีไทยยังได้จัดทำแผนธุรกิจ 10 ปี โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากปัจจุบัน 1,000 ล้านบาท ขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท และขยายสาขากิจการทั้ง 2 แบรนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 400 สาขา โดยปัจจุบัน โอบองแปงมีสาขาจำนวน 46 สาขา ส่วนดังกิ้น โดนัทมี 200 สาขา  

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

ประเมินรายได้ทรัพย์ศรีไทยปี
2555 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 60% ธุรกิจน้ำมันพืชทิพ 30% ธุรกิจคลังสินค้าและคลังเอกสาร 10%