ริว จิตสัมผัส ชี้ดวงเมืองปี 2555 การเมืองจะร้อนเป็นไฟ ระวัง! เรื่องคำพูด การใส่ร้ายป้ายสี บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ประชาชนประสบกับข้าวยากหมากแพง โจรผูร้าย อุทกภัย น้ำท่วม แผ่นดินไหวยังมี แต่ไม่หนักเหมือนปี 54
ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ หรือ “ริว จิตสัมผัส” ได้ทำนายดวงเมืองของไทยปี 2555 โดยพิจารณาจากปีนักษัตร “งูใหญ่” ซึ่ง งู มักหากินด้วย “ปาก” ประกอบกับเข้าสู่ ปี พ.ศ. 2555 ซึ่งเลข 5 เป็นเลขของคำพูด
ดังนั้นในปีหน้าต้องระวังให้มาก คือ เรื่องอารมณ์ของคน จะเกิดปัญหาปากเสียง มีการขุดคุ้ยเรื่องราวเพื่อให้ร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน จนส่งผลกระทบปัญหาบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ดังนั้นสิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของการใช้ “คำพูด” โดยเฉพาะคนในระดับผู้นำประเทศ และนักการเมือง ต้องใช้สติให้มาก อย่าใช้อารมณ์ โดยช่วงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือเดือนพฤษภาคม
สำหรับปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ปีหน้าเมืองไทยเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ผลผลิตข้าวลดน้อย ประชาชนประสบกับปัญหาความยากจน คนตกงานจำนวนมาก โจรผู้ร้ายชุกชุม
ปัญหาเกี่ยวภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ยังเกิดขึ้นแต่ไม่หนักเท่ากับปี 2554 โดยอุทกภัยน้ำท่วมเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับปีแล้ว คือระหว่างเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม โดยปัญหาน้ำท่วมเกิดทั้งภาคกลาง ภาคใต้ โดยเฉพาะสุราษฎร์ธานี และชุมพรต้องระวังให้มาก
ส่วนธุรกิจที่ยังไปได้ดี ประกันภัย ยา เวชภัณฑ์ ธุรกิจบันเทิง สื่อโทรทัศน์ เพราะคนยังต้องพึ่งพาธุรกิจเหล่านี้ในการพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงธุรกิจคอนโดมิเนียมที่จะมีราคาดี
ริวบอกว่า หนทางแก้ไขห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะการทำความดี จากปัญหาหนักจะเบาลง
สัมผัสชีวิต ริว จิตสัมผัส
ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ เจ้าของฉายา “ริว จิตสัมผัส” โด่งดังมาจากการเป็นนักทำนายชีวิตผ่าน “จิตสัมผัส” สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ต่างๆ ด้วยการสื่อสารกับ “เทพเจ้ากวนอู” จนนำไปสู่การเป็นพิธีกรรายการ “คนอวดผี” และรายการ “จิตสัมผัส” ในช่องมิราเคิลเคเบิลทีวีของกันตนา ยังเป็นเจ้าของพ็อกเกตบุ๊ก 3 เล่มในครึ่งปี ล่าสุดเวิร์คพอยท์ยังได้ปั้นขึ้นเวทีทอล์กโชว์หมอดูคนแรกของไทย
ริว เกิดและโตมาในจังหวัดนราธิวาส เรียนจบด้านการตลาด และไปเรียนต่อด้านร้องเพลงที่ไต้หวัน เริ่มทำงานเป็นวีเจเปิดเพลงในช่องทีวีดาวเทียม และเคยทำงานเป็นเลขาให้กับดาราดังคนหนึ่ง แต่กลายมาเป็นที่รู้จักโด่งดังชั่วข้ามคืน เมื่อเขามีโอกาสได้มาออกรายการ “ตี 10” สามารถทำนายทายทักด้วยจิตสัมผัสทั้งพิธีกร และแขกรับเชิญได้ราวกับปาฏิหาริย์
จบจากรายการตี 10 ปรากฏว่า นอกจากจะมีคนโทรมาขอให้ดูดวงจนต้องปิดโทรศัพท์หนี ริวยังได้รับการติดต่อให้เล่นละครพื้นบ้าน เรื่องปลาบู่ทอง ให้กับทางช่อง 7
ริวเล่าว่า ชีวิตที่มีจิตสัมผัสของเขามีมาตั้งแต่เกิด แต่มาชัดเจนตอนประถม 3 เมื่อเขาได้สัมผัสกับเหตุการณ์แปลกๆ เป็นเรื่องลี้ลับ ประกอบกับ “เทพเจ้ากวนอู” มาเข้าฝันว่าเขาเป็นผู้ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่เป็น “สื่อกลาง” ชี้แนะให้คนทำดี และใช้ความสามารถเหล่านี้ช่วยเหลือผู้คน โดยเฉพาะการให้ตระหนักปัญหาเรื่องการ “ทำแท้ง” ให้คนรักแผ่นดินเกิด
เมื่อกันตนาเปิดช่อง “มิราเคิล” ริวถูกชักชวนให้รับหน้าที่ “พิธีกร” ในรายการ “จิตสัมผัส” ที่ริวบอกว่า “เทพเจ้ากวนอู” ตั้งชื่อให้ และช่วงนั้นเขายังได้ออกพ็อกเกตบุ๊ก “ทำไมชีวิตต้องติดกรรม” ให้กับสำนักพิมพ์สยาม อินเตอร์บุ๊คส์ แต่ริวต้องตอบคำถามเรื่องนี้กับคนดู เพราะเขาเคยประกาศในรายการตีสิบว่าจะไม่ทำหนังสือขาย ริวชี้แจงว่า เขาต้องการให้คนเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม และชี้แนะให้ทำความดี โดยรายได้ทั้งหมดไม่ได้เข้ากระเป๋า ยกให้การกุศลหมดทั้ง 3 เล่ม
ผลงานพ็อกเกตบุ๊กของริวไปเข้าตา “เวิร์คพอยท์” ที่ได้เวลามาจากช่อง 7 ให้ทำรายการคนอวดผี ริวถูกเลือกเป็นหนึ่งในหมอดูจำนวนหลายคนสลับสับเปลี่ยนกันมาร่วมเป็นพิธีกรประจำรายการ และด้วยรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากหมอดูทั่วไป สไตล์การทำนายแบบจิตสัมผัสของเขาเข้ากันได้ดีกับรูปแบบรายการ ประกอบกับเรตติ้งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ริวจึงถูกเลือกให้เป็นหมอดูคนเดียวที่ได้ประจำรายการ ในช่วง “ศูนย์บรรเทาทุกข์เรื่องผี”
เมื่อได้เข้าสังกัด ”เวิร์คพอยท์ เซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปี มีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกับตุ๊กกี้ กระแสเรตติ้งความนิยมจากคนดูของริวก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขามีแฟนคลับติดตามมากมาย งานต่างๆ ทั้งอีเวนต์ งานบรรยายตามสถานที่ต่างๆ ทั้งสถาบันการศึกษา บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ หลั่งไหลเข้ามา จนได้รับฉายา “หมอดูซุปตาร์”
ล่าสุดเวิร์คพอยท์จึงจัดเต็มปั้นเขาขึ้นเวที “ทอล์กโชว์” สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการทอล์กโชว์และวงการหมอดูเวิร์คพ้อยท์เอง คงประเมินแล้วว่า เรทติ้งความนิยมของริว ทั้งจากจำนวนแฟนคลับ เรทติ้งคนอวดผี กลุ่มคนที่ชื่นชอบรายการพึ่งทางใจสไตล์จิตสัมผัส แก้ปัญหาชีวิต ด้วยกฎแห่งกรรม แฝงแนวธรรมะ เมื่อมาบวกกับแขกรับเชิญในสังกัด โดยมีทั้ง ตุ๊กกี้ รายการ ไทยแลนด์ก๊อททาเลนท์ เชื่อว่าทอล์กโชว์แนวนี้จะดึงคนดูได้ไม่น้อยทีเดียว
ริวบอกว่า ชื่อเสียงและความโด่งดังที่ได้รับจากงานพิธีกรต่างๆ ที่เข้ามา ล้วนแต่ถูกกำหนดมาแล้วจาก “เทพเจ้ากวนอู” มอบหมายให้เขามารับทำหน้าที่ชี้แนะแนวทางกับผู้คน โดยห้ามหารายได้หรือหาประโยชน์จากการเป็นหมอดูโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสำนักดูหมอ หรือดูดวงผ่านระบบโทรศัพท์ และนั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ริวแตกต่างไปจากหมอดูทั่วไป จนได้รับความสนใจจากคนทั่วไปและเจ้าของรายการ
สำหรับการเป็นพิธีกรรายการ ริวบอกว่าเป็นเรื่องที่ “เทพเจ้ากวนอู” จัดสรรให้ เพื่อว่าเขาจะได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือคน และให้คนตระหนักปัญหาเรื่องการ “ทำแท้ง” และให้คนรักแผ่นดินเกิด ส่วนรายได้จากการเป็นพิธีกร ห้ามไม่ให้เรียกร้องหรือต่อรอง ขึ้นอยู่กับเจ้าของรายการจะให้เอง และมีเงื่อนไข 3 ข้อ 1.ห้ามทำการค้า 2.ห้ามเรื่องงมงาย 3.ห้ามหลอกลวงชาวบ้าน
แต่รูปแบบการพยากรณ์ชีวิต มาจากพลังเร้นลับ สามารถหยั่งรู้ปัญหาคนอื่นด้วยการใช้ “จิตสัมผัส” ผ่านลายมือ ลายเซ็น และบ้านเลขที่ และยังสื่อสารกับวิญญาณต่างๆ ซึ่งคาบเกี่ยวกับคำว่า งมงาย ทำให้เขาต้องตอบคำถามด้วยประโยคเดิมๆ อยู่เสมอว่า เป็นเพียง “คนมาทำหน้าที่บรรยายธรรมะ” เพื่อชี้แนะแนวทางให้กับคนที่ประสบปัญหา ไม่เน้นเรื่องเร้นลับ หรือไสยศาสตร์ หรืออภินิหาร
คำทำนายของเขาจึงมักจะทิ้งทายด้วยเรื่องของกฎแห่งกรรม ซึ่งริวอธิบายเรื่องนี้ว่า เพื่อไม่ให้คนรู้สึกงมงาย และต้นตอของปัญหาที่มักจะเกิดจากการกระทำของคนคนนั้น
แต่ต้องยอมรับว่า ความโด่งดังของริวจากความสามารถในการสัมผัสกับสิ่งลี้ลับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในระยะหลังทำให้เขามักจะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง ริวเองก็ย้ำเสมอ เขาไม่ต้องการหาประโยชน์จากการเป็นหมอดู เพราะเป็นการหากินบนความทุกข์ของผู้อื่น
ริวบอกกับ POSITIONINGว่า เขาไม่ได้มีรายได้มากมาย และต้องใช้เงินอย่างประหยัด ทุกวันนี้เขามีรายได้จากพิธีกรรายการคนอวดผี ซึ่งออกอากาศทุกวันพุธ ตอนละ 5,000 บาท ราคานี้ใกล้เคียงกับรายการจิตสัมผัสทางช่องมิราเคิล ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ ซึ่งเขาบอกว่า ค่าตัวน้อยมากเมื่อเทียบกับระดับความดังของเขา แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของรายการ ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์ต่อรอง
เมื่อคำนวณรายได้จากสองรายการ ริวบอกว่า พอแค่ใช้ผ่อนคอนโดมิเนียมและรถยนต์ที่เขาเพิ่งซื้อมาเมื่อปีที่แล้วเท่านั้น จึงต้องใช้อย่างประหยัด ส่วนรายได้จากการออกงานอีเวนต์ต่างๆ หรือบรรยาย เขาบอกแต่เพียงว่า เป็นหน้าที่ของเวิร์คพอยท์ ในฐานะต้นสังกัดเข้ามาทำหน้าที่ทั้งเรื่องจัดคิวงาน และต่อรองเรื่องค่าตัวแทนเขา
ทรัพย์สินของเขาเวลานี้ คือ คอนโดมิเนียม ขนาด 32 ตารางเมตร ย่านลาดพร้าว ที่เขาซื้อมาในราคา 1.7 ล้านบาท และรถยนต์ฮอนด้ารุ่น Freez ซึ่งเป็นคันใหม่ล่าสุด คันแรกของเขาคือ ฮอนด้านซิตี้ ริวบอกว่าทั้งบ้านและรถเป็นสิ่งที่ “เทพเจ้ากวนอู” ต้องอนุมัติให้ เดิมเขาอาศัยอยู่ในบ้านทาวน์เฮาส์ของพ่อ ต่อมาเมื่อพ่อยกให้น้องสาว เขาจึงออกมาเช่าอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ย่านลาดพร้าว ซึ่งท่านกวนอูอนุญาตให้เช่าอยู่ได้แค่เดือน3,000 บาท มีแต่เตียงและพัดลม ระหว่างที่ซื้อคอนโดมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นช่วงที่เขาซื้อคอนโดมิเนียม เช่น ทุกอย่างลงท้ายด้วย 7 เขาจึงเชื่อว่าเป็นเพราะท่านกวนอูเป็นผู้จัดสรรให้
ส่วนเสื้อผ้าหน้าผม ริวบอกว่าใช้จ่ายถูกมาก ไม่เคยใช้ของแบรนด์เนม เครื่องประดับในตัวแพงที่สุดคือนาฬิการาคา 8,000 บาท เสื้อผ้าถ้ารายการไม่หาให้ เขาจะใส่เสื้อยืดที่แฟนคลับช่วยกันทำ หรือเป็นแบรนด์เนมมือสองที่แฟนคลับยกให้ ริวยืนยันว่า เขาจะ “โลภ” ไม่ได้ หากเกิดความโลภขึ้นเมื่อไหร่ จิตสัมผัสเหล่านี้จะหายไปทันที” ริวบอกไว้อย่างนั้น
เมื่อหมดจากงาน ชีวิตส่วนตัวของเขาก็เหมือนกับคนทั่วไป พักผ่อน กิน เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงช้อปปิ้ง แต่ก็มีข้อห้ามอีกเช่นกัน ห้ามกินเที่ยวหรู เสาร์อาทิตย์จะมีนัดกับแฟนคลับซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่ติดตามเขาไปทุกที่ไม่ต่างจากศิลปินดัง
“มีคนหาว่าริวสร้างภาพ และคิดหาประโยชน์ ถ้าริวแบบนั้นจริงๆ หลังจากออกรายการตี 10 ริวไปรับดูดวง ป่านนี้มีเงินเป็นร้อยเป็นพันล้านแล้ว ส่วนเรื่องสร้างภาพ ริวขอโอกาสให้มาใกล้ชิดริว และให้ดูกันไปยาวๆ ว่าริวเป็นคนยังไง“
เราเห็นด้วยกับริวที่ว่า เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อ” ของแต่ละคน ว่าจะมีแง่คิดและประสบการณ์ที่ต่างกันอย่างไร
