Workstyle 2012 Passion & Gen Synergy

ปี 2012 ที่โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แน่นอนว่าความคิดและวิถีชีวิตของคนทำงานต้องเปลี่ยน แม้ความต้องการความสำเร็จยังคงอยู่ มีประสบการณ์ตรงจาก ”ธนา เธียรอัจฉริยะ” ที่ถือเป็น Best Practice และสะท้อนเทรนด์การทำงานในอนาคตได้อย่างดี

”ธนา” อดีตผู้บริหารและกำลังหลักในการสร้างแบรนด์ดีแทคและแฮปปี้ และเพิ่งลาออกจากเก้าอี้ซีอีโอแม็คยีนส์ ณ ปัจจุบันขอเลือกเป็นที่ปรึกษาให้องค์กรธุรกิจหลายแห่ง ในวัย 40 ต้นๆ จุดนี้ไม่ใช่หลับตาแล้วตื่นขึ้นมาได้พบเลย เพราะกว่าจะผ่านมาถึงจุดที่ ”เลือกได้ “ นี้ “ธนา” บอกว่ามีทั้ง ”หยาดเหงื่อ น้ำตา และเลือดนะ” 

หลายคนก็ยกให้เขาเป็น Idol เป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ที่ได้ทำในสิ่งที่ท้าทายและไม่หยุดนิ่ง “ธนา” จึงนับเป็นคนที่สะท้อนเทรนด์การทำงานของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างดี

 

Passion ใน 3 จังหวะการทำงาน

การทำงานเพื่อบรรลุความสำเร็จ โดยเฉพาะการได้เลือกทำตามเสียงเรียกร้องในใจ โดยไม่ต้องรอให้เกษียณอายุการทำงานซะก่อน ”ธนา” บอกว่าควรแบ่งจังหวะก้าวในชีวิตเป็น 3 ช่วง

ช่วงแรก ตอนทำงานใหม่ๆ ต้องอดทนเหมือนช่วงเพาะกล้ามเนื้อ โดยในการทำงานต้องมีความชอบในงานเป็นพื้นฐานก่อน เพื่อให้ตั้งใจทำหน้าที่ และสร้างความมั่นคงในการงาน จนเติบโตสามารถต่อรองและเลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ คอนเซ็ปต์นี้เรียนรู้ได้จากผู้ใหญ่ ที่มีคุณสมบัติเด่นคือความอดทนสูง 

ช่วงนี้อาจสร้าง Passion ให้ตัวเองเช่น ต้องได้ทำงานนี้ ถูกโปรโมตในหน้าที่การงาน แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าไม่โลภในความก้าวหน้าเกินไป เพราะอาจทำให้ทำสิ่งไม่ดี เช่นการเลื่อยขาเก้าอี้ หรือหากเป็นเจ้าของกิจการ อยากรวยเร็วก็จะโกง อาจทำธุรกิจอย่างประมาทและเจ๊งได้ในที่สุด

สิ่งที่ ”ธนา” แนะนำคือ 5 ปีแรกถ้าไม่ได้ทำงานหนัก ถือว่าล้มเหลว โชคร้าย เพราะการทำงานหนักเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ช่วงที่สอง คือหลังการทำงานหนักเพื่อเรียนรู้ ก็เข้าสู่ช่วงของการสร้างฐานะให้ตัวเองได้อย่างมั่นคง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอยู่ในโลกทุนนิยม เราจึงต้องจัดการเพื่อพร้อมอยู่ในโลกทุนนิยม

ช่วงที่ 3 คือเมื่อมีประสบการณ์แล้ว มีฐานะแล้ว ถือมีต้นทุนที่มากพอ เพื่อเข้าสู่ช่วงที่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เป็น Passion ที่สนองความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง

 

3 Gen Synergy

ในองค์กรปัจจุบันโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่จะมีคนทำงานอยู่ 3 รุ่น หรือ 3 เจนเนอเรชั่น คือเจนฯ Baby Boom (เกิด ค.ศ.1946-1964) กลุ่มเจนฯX (ค.ศ.1965-1976) และเจนฯY เกิด (1977-2000)

ประสบการณ์ในการทำงานของ ”ธนา” กับองค์กรอย่างบริษัทหลักทรัพย์เอกธำรง การเติบโตมาพร้อมก้บผู้ก่อตั้งดีแทค ที่มีผู้ใหญ่ในยุคเบบี้บูมจำนวนมาก จนมาถึงดีแทคยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันคนทำงานรุ่นใหม่ ทำให้ ”ธนา” ที่เป็นเจนฯ X เข้าใจและเข้าถึงเพื่อนร่วมงานทุกรุ่น

นี่คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องเข้าใจ เพราะเทรนด์การทำงานนับจากนี้คนทุกรุ่นต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อทำงานด้วยกันและได้ผลผลิตออกมาได้เต็มที่

เจนฯ BabyBoom มีความอดทนสูง มีระเบียบวินัย เป็นเวลา หรือมีเวลาเขาออกงานชัดเจน เพราะผ่านความยากลำบากหลายรูปแบบ เจนฯX ที่เห็นชีวิตความลำบากของผู้ใหญ่ แม้จะนึกถึงความสำเร็จในชีวิตด้แต่ก็ยึดหลัก Balance Of life ด้วย ส่วนเจนฯY เป็นเด็กยุคไอที มีลักษณะ Multitasking สมาธิสั้น ไม่ชอบการบังคับ เช่นเวลาการทำงาน แต่ต้องการให้ดูที่ผลสัมฤทธิ์ของงาน ไม่ชอบรอนานที่จะถูกโปรโมท และชอบสิ่งใหม่ที่ท้าทาย 

หากเปรียบกับรสนิยมของการชอบรถยนต์แล้ว ผู้ใหญ่อาจมองว่าโตโยต้าดีเพราะราคาสมเหตุสมผลและคุณภาพดี เจนฯY ก็ชอบมินิ เพราะดีไซน์โดดเด่น ส่วนเจนฯX จะชอบทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพของรถ

แนวคิดในการทำงานร่วมกันคือแต่ละเจนฯควรลองเดินในจังหวะชีวิตของเจนฯ อื่นบ้าง จะทำให้เข้าใจวิธีคิดวิธิปฏิบัติของคนเจนฯ อื่น ทำให้เราคิดต่าง และ Outstanding จากคนเจนฯ เดียวกันได้ เพราะสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ เรียกได้ว่าคุยได้กับทุกเจนฯ เจ้านายชอบ ลูกน้องก็รัก ซึ่งหากใครอยากเติบโตในหน้าที่การงาน ก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกเจนฯ

 

“มีประโยชน์” คาถาของมืออาชีพ

การดำรงชีวิตของมืออาชีพคือ ”ความรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์” เป็นประโยคที่ ”ธนา เธียรอัจฉริยะ” ย้ำกับทีมงาน POSITIONING มากกว่า 2 ครั้งระหว่างการพูดคุยถึงวิธีการทำงาน ที่ทำให้เขาอยู่ในจุดที่สามารถ ”เลือกได้” และล่าสุดเลือกที่ออกจาก ”แม็คยีนส์” หลังจากนั่งเก้าอี้ซีอีโอมาเพียง 6 เดือน

ก่อนหน้านี้ เขาเลือกที่จะลาออกจากดีแทคหลังจากทำงานที่บริษัทมือถือเบอร์ 2 ของไทยมานาน 15 ปี สร้างตำนานการต่อสู้ของแบรนด์รอง ให้อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ยาวนาน

แนวคิดของคนทำงานแบบมืออาชีพ นั้น ”ธนา” บอกว่าถ้าอยู่องค์กรไหนแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้เขาทำงานมาโดยตลอด แต่เมื่อไม่ใช่ ไม่ลงตัวด้วยเหตุผลต่างๆ การเลือกที่จะออกมาคือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นการแหวกกฎการทำงานที่หลายคนบอกว่าต้องอยู่นานเพื่อให้แลดูมั่นคง

ปัจจุบัน ”ธนา” เลือกเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆ 4 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือค่าย ”จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ที่กำลังบุกธุรกิจใหม่อย่างทีวีดาวเทียม โดย ”ธนา” ได้โอกาสใช้ความเชี่ยวชาญ จัดเจนในเรื่องการสร้างแบรนด์ และการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายอย่างเต็มที่

ส่วนความเป็น Idol สำหรับคนรุ่นใหม่นี้ “ธนา” อยากให้คนรุ่นใหม่มองเขาว่าเป็น Idol เพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เขาแนะนำว่าการทำอะไรแหวกๆ นอกกรอบ ต้องมีฐานความรู้ ไม่ใช่แหวกแล้วจะสำเร็จเสมอไป อย่างตัวเขา ”อาจจะว่ายได้ดีในน้ำเค็ม แต่ในน้ำจืดอาจว่ายไม่ได้ก็เป็นได้”

Related Clips :