ต้องจิต ติดจรวด คือสมญาที่เรียกหาหมอดูรุ่นใหม่ ที่มีความเป็นตัวเองสูง มีเอกลักษณ์และรูปแบบในการดูที่แตกต่างจากบรรดาหมอดูรุ่นใหญ่ หรือรุ่นเดียวกัน แต่คำพยากรณ์ของเขาทำให้หลายคนต้องกลับมาทบทวน และฉุกคิด
ลีลาของหมอดูคนนี้ ไม่ยืดยาว หรือเยิ่นเย้อ ตรงประเด็น เข้าเป้า ชัดๆ หากเป็นมวยก็เหมือนนักมวยแบบหมัดหนักชกตรงๆ
ต้องจิต ติดจรวด สร้างชื่อเสียงและความเชื่อถือจากการเป็นหมอดูในช่องซุปเปอร์บันเทิง เปลวเพลิงแห่งโลกมายา จากที่ได้เวลาในการทำนาย 15 นาที ท้ายรายการ จนกลายมาเป็นรายการของตัวเองถึง 2 วันต่อสัปดาห์
ต้องจิตพยากรณ์สถานการณ์บ้านเมืองในปี 2555 ผ่านไพ่ยิปซี ผสมผสานกับความรู้สึกพิเศษของเขาเอง ในการเปิดอนาคตของประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น
ปีแห่งความทุกข์ กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ กระเป๋าแบน
ดวงประเทศไทยในปี 2555 หมอต้องจิต ทำนายว่า ความลำบาก และทุกข์ยากจะเข้าเกาะกุมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ครึ่งปีแรกเป็นช่วงเวลาที่มืดมน ชาวบ้านทั่วไปจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ที่ผ่านพ้นไป แต่ความเสียหายติดตามต่อเนื่องข้ามปี
สินค้าอุปโภค บริโภคจะฝืดเคือง และกลายเป็นของหายาก ข้าว พืช ผัก เครื่องใช้จำเป็น รัฐบาลอาจควบคุมไม่อยู่ สินค้ามีราคาแพง เพราะวัตถุดิบในการผลิต เครื่องจักรต่างๆ เสียหายหมด ถึงรัฐบาลจะจัดสินค้าธงฟ้า หรือสินค้าราคาถูกออกมาให้ความช่วยเหลือ ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยประกาศใช้ก่อนน้ำท่วม ก็อาจจะต้องมีการทบทวน หรือยกเลิกในบางมาตรการ เพราะปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม
ภาวะการจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวมจะตกต่ำ หลายๆ กิจการต้องปิดตัวเองลงไป เพราะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ทั้งในเรื่องของเงินทุน และกำลังซื้อของประชาชน จะเกิดการเลิกจ้างในหลายๆ ธุรกิจ จำนวนคนตกงานจะเพิ่มขึ้น
ส่วนกิจการที่ดำเนินการต่อไปได้ก็จะอยู่ในภาวะที่ลำบากเช่นกัน เช่นอาจต้องลดคน เพื่อบริหารต้นทุนให้ต่ำ ซึ่งคนที่ยังมีงานทำอยู่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานสบาย ต้องทำงานหนักขึ้น และอาจจะมีรายได้ลดน้อยลง
ครึ่งปีหลังการพลิกฟื้นของประเทศและเศรษฐกิจ ยังไม่สดใสเท่าใดนัก ความอดอยาก และขาดแคลนก็ยังมีอยู่ต่อไป ธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้าแบบไม่มั่นคง และจะเป็นไปในลักษณะนี้จนถึงสิ้นปี
แต่ในความตกต่ำนี้ก็มีบางธุรกิจที่ได้รับผลดี แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโดยรวม ธุรกิจที่น่าจับตามองคือ การกว้านซื้อที่ดินที่ไม่ถูกน้ำท่วม จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า รวมไปถึงในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอาจจะมีการซื้อกันราคาถูก เพราะเจ้าของที่ดินไม่มั่นใจในเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำซากที่อาจจะเกิดขึ้นได้
โครงการที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียมจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตที่ไม่ถูกน้ำท่วม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ จะมียอดขายที่ลดลง
สินค้าฟุ่มเฟือย แฟชั่น จะมียอดขายลต่ำลง เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาและตัดสินใจซื้อบยากขึ้น จากกำลังซื้อที่ลดน้อยลง และทุกคนต้องนำเงินไปบูรณะซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
สินค้าที่จะขายได้และได้รับความสนใจต้องเป็นสินค้าราคาถูก และดี เท่านั้น เพราะเหมาะสมกับภาวะที่เกิดขึ้น สินค้าราคาแพงจะขายได้ลำบาก
การลงทุนในหุ้น และตลาดทุน ต้องมองไปที่กลุ่มหุ้นพลังงาน ทองคำ และต้องเป็นลักษณะซื้อ-ขายเร็ว ไม่เก็บไว้กับตัวเองนานเกินไป กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ปัญหาจากแหล่งผลิต วัตถุดิบ จะกระทบกระเทือนไปถึงตลาดโลก
การเมือง มีเกณฑ์เปลี่ยนตัวผู้นำ
ผู้นำประเทศยังคงเป็นผู้หญิงต่อไปอย่างน้อยตลอดปี 2555 แต่จะเป็นการบริหารงานที่ถูกแรงกดดันอย่างหนักทั้งจากพรรคตัวเอง ฝ่ายค้าน และจากกองทัพ แต่ที่น่าจับตามองก็คือแรงกดดันจากภายในของพรรครัฐบาลเองที่จะเล่นกันหนักขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง
หน้าฉากยังคงให้นายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงบริหารงานต่อไป แต่ทางหนึ่งก็เพิ่มแรงกดดัน เพราะในตัวพรรคการเมืองเองก็ไม่ได้มีความสามัคคี หรือรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น จะทำให้เห็นเกมการเมืองในรูปแบบแปลกๆ มากขึ้น น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามเย็นภายในพรรคก็ว่าได้
ส่วนทางด้านฝ่ายค้านเองก็ยังไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ แต่ก็มีการกระแซะอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องเป็นฝ่ายค้านไปอย่างน้อยอีก 1 ปี
แนวโน้มการเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ จะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 และการเปลี่ยนแปลงนี้มีกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ไม่ได้มาในรูปแบบเดิม คือการใช้กำลัง หรือเปลี่ยนแปลงนอกระบบ แต่เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้มีการปรับเปลี่ยนที่ชัดเจน และเร็วขึ้น ผู้นำคนใหม่ที่จะมาแทน อาจจะเห็นเค้าลางประมาณปลายปี เป็นเพศชาย อยู่ในเครื่องแบบ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่มีความรุนแรง
ต้องระวังภัยพิบัติ จะเกิดบ่อยขึ้น
สิ่งที่ต้องการเตือนคือ มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินเลื่อนในประเทศไทย เหตุการณ์แผ่นดินไหวจะเกิดมากขึ้น จะเห็นปรากฏการณ์ประหลาดหลายอย่าง ความถี่ในการเกิดมากขึ้น และรุนแรงขึ้น
พื้นที่เสี่ยงมากที่สุดอยู่ที่ภาคกลางของประเทศ ตั้งแต่นครสวรรค์ถึงนครปฐม และจะเกิดขึ้นในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ความรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต
ส่วนน้ำท่วมใหญ่ปีหน้าไม่มี อาจจะมีน้ำท่วมในบ้างพื้นที่ แต่ไม่มาก และสามารถแก้ไขได้
เหตุการณ์ในแต่ละเดือน
มกราคม
เป็นการเริ่มต้นปีที่ยากลำบาก เกิดภาวะปีใหม่ต้องหลอกตัวเองว่าจะได้พบเจออะไรใหม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นเรื่องเดิม บางพื้นที่น้ำยังท่วมขัง สภาวะเศรษฐกิจแย่ ฝืดเคืองไปทั้งประเทศ แต่ก็มีความพยายามแก้ปัญหาด้วยการนำสินค้าราคาถูกออกมาช่วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนได้คลายจากความเดือดร้อนมากนัก และต้องระวังภัยพิบัติในภาคใต้ อีสาน และภาคเหนือ
กุมภาพันธ์
ระมัดระวังการแพร่ขยายและลุกลามของเชื้อโรค โรคร้าย ที่เกิดขึ้นหลังจากน้ำลด เมื่อรวมกับภัยหนาวแล้ว จะเกิดโรคภัยได้ง่าย และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับผู้ฝ่วยได้ทั้งหมด ยารักษาโรคขาดแคลน เป็นเดือนแห่งการสูญเสีย
มีนาคม
เริ่มเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการของธุรกิจต่างๆ ที่ถูกผลกระทบจากน้ำท่วม บางส่วนสามารถเปิดดำเนินการต่อไปได้ แต่บางส่วนต้องตัดใจปิดกิจการ เพราะไม่มีเงินทุน หรือไม่สามารถกอบกู้โรงงานและธุริกจของตัวเองได้ เกิดภาวะคนว่างงาน เลิกจ้าง ปลดคนงาน เศรษฐกิจย่ำแย่ คนที่ยังมีงานทำอยู่ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น
เมษายน
ธุรกิจที่รอดตายมาจากเดือนที่แล้ว บางส่วนก็องมายุติกิจการในเดือนนี้ เกิดวิกฤต ล้มละลาย ในบริษัทเอกชนต่างๆ นโยบายของรัฐที่ดูเหมือนว่าจะช่วย ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ผลผลิตทางเกษตรจะเสียหาย ล่มจม หนี้สินต่างๆ ไม่ได้รับการผ่อนปรน ดัชนีหุ้นจะตกอย่างหนัก เศรษฐกิจประเทศทรุดหนัก รัฐบาลเริ่มมีปัญหา และประชาชนมีความรู้สึกว่าพึ่งพารัฐบาลไม่ได้
พฤษภาคม
เริ่มมีกระแสกดดันจากนักวิชาการ ทหาร นักการเมือง ในเรื่องการแก้ปัญหาประเทศ อาจมีการปฏิวัติเล็กๆ ภายในพรรครัฐบาลเอง แต่ไม่รุนแรง และยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศใหม่ แต่เป็นการส่งสัญญาณเตือนแล้วว่า เริ่มมีกระแสต่อต้าน และไม่ยอมรับมากขึ้น และเดือนนี้ให้ระวังภัยพิบัติไว้ด้วย
มิถุนายน
ธุรกิจที่ประคอง และคิดว่าจะน่าจะกลับมาพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ต้นปี ก็จะเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย คือเดินมาล้มตายในเดือนนี้ ภาวะคนตกงานมากขึ้นกว่า 50% ของประเทศ ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ บันเทิง สินค้าบริการ ต่างๆ จะเงียบเหงาเพราะประชาชนใช้จ่ายเงินน้อยลง
กรกฎาคม
เป็นความอึมครึมของแศรษฐกิจประเทศ คนที่ยังมีงานทำก็ทำงานต่อไป แต่งานจะหนักขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนต้องเลิกจ้าง และให้คนที่ทำงานต่อรับภาระทำงานแทน รายได้อยู่ในขั้นพออยู่ได้ เอาชีวิตรอดได้เท่านั้น
สิงหาคม
ความช่วยเหลือจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้หน่วยงานเอกชนและองค์กรการกุศลต่างๆ หันมาแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่รอความช่วยเหลือหรือมาตรการของภาครัฐ มีมาตรการกระตุ้นและช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศจากกลุ่มเอกชนรายใหญ่ของประเทศ
กันยายน
มีสัญญาณของการเกิดภัยพิบัติบางอย่างเกิดขึ้นในช่วงนี้ กับการสูญเสีย การเมืองยังดำเนินต่อไป ระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บก็ยังมีอยู่ต่อไป รัฐบาลยังไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่หรือมีประสิทธิภาพ
ตุลาคม
เป็นเดือนแห่งการตัดสินทางการเมือง ผู้นำประเทศอาจถูกพิจารณา และกดดันอย่างหนักจากพรรคเดียวกันเอง รวมถึงแรงบีบจากหลายๆ ทาง แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำประเทศ แต่กระแสต่อต้านเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะมีเหตุการณ์บีบคั้นมากขึ้น ด้วยการเกิดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตามมาอีกครั้ง
พฤศจิกายน
เกมการเมืองยังต่อสู้กันรุนแรง รัฐบาลเองก็ต้องรับมือกับกระแสกดดันจากภายในพรรค และรับมือกับฝ่ายค้านที่เริ่มรุกไล่เข้ามามากขึ้น พร้อมๆ กับบทบาทของกองทัพจะเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ออกมาเป็นระยะแต่ไม่ชัดเจนนัก แต่เดือนนี้จะเริ่มชัดขึ้น ประชาชนเริ่มมองหาความหวังใหม่ๆ ในปีหน้า เพราะปีนี้คาดว่ามีแต่ความถดถอย
ธันวาคม
เดือนสุดท้ายของปี จะมีผู้ชายเข้ามาให้กำลังใจกับประชาชน และเป็นที่ยอมรับของทุกคน ประชาชนเริ่มชินกับสภาพข้าวยากหมากแพง และทำใจรับสภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในส่วนของรัฐบาลเริ่มเห็นเค้าลางของการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของรัฐมนตรีต่างๆ แต่ตัวนายกรัฐมนตรียังไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะเกิดขึ้นในปี 2556