Google ประเทศไทย จัดงาน Google Marketing Live (GML) เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุดในการพัฒนานวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแบรนด์เพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ ภายในงาน Google ได้กล่าวถึงการพัฒนา AI ในรูปแบบของ Generative AI ที่จะเป็นกลไกเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างแคมเปญการตลาดอย่างมีนัยสำคัญและน่าสนใจ เช่น การสนทนาใน Google Ads, รูปแบบโฆษณาในการค้นหาผ่านการสร้างประสบการณ์จาก Generative AI หรือการใช้ Generative AI ในทุกกระบวนการสร้างสรรค์ตามที่นักโฆษณาต้องการ
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “การนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดนับเป็นการคว้าโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความซับซ้อนมากขึ้น และผู้คนมีการค้นหาข้อมูลบนหลากหลายแพลตฟอร์มและในรูปแบบต่างๆ มากกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังพบว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและกลโกงที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไทยกว่า 7 ใน 10 คำนึงถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัวและระมัดระวังข้อมูลของตนเองบนออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่ง Google เชื่อว่าท่ามกลางความต้องการของผู้บริโภคที่คาดเดาได้ยากและเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการนำเครื่องมือโฆษณาที่ใช้งานด้วย AI มาใช้เพื่อเพิ่มความสามารถให้นักการตลาดตอบสนองกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างทันการณ์”
ดังนั้นในช่วงเวลาก่อนที่เครื่องมือ Google AI เหล่านี้จะเปิดให้บริการในประเทศไทย Google มีคำแนะนำเพื่อให้นักการตลาดมีการวางรากฐานที่เหมาะสมในการนำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ดังนี้
เตรียมความพร้อมด้วยการวางรากฐานที่เหมาะสม
- ติดแท็กทั่วทั้งเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพด้วย Google tag
- ตั้งค่า enhanced conversions เพื่อเพิ่มความแม่นยําของข้อมูล Conversion
- กําหนดมูลค่า (value) ให้กับ Conversion ตามเป้าหมายธุรกิจของคุณ เช่น รายได้ ส่วนต่างกําไร หรือมูลค่าตลอดชีพของลูกค้า (lifetime value)
- อัปเกรดเป็น Google Analytics 4 เพื่อได้ข้อมูลอินไซต์แบบเจาะลึกเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปของคุณ
เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้วยแคมเปญที่ทํางานด้วยระบบ AI
- ใช้แคมเปญ Search ที่ทํางานด้วยระบบ AI อย่าง broad match ควบคู่กับ แคมเปญ Performance Max หรือที่เรียกว่า “Power Pairing” เพื่อเพิ่ม Conversion ในทุกช่องทางของ Google
- ใช้ value-based Smart Bidding ในแคมเปญต่างๆ เพื่อจับ Conversion ที่จะสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณมากที่สุด
- เพิ่มประสิทธิภาพด้วยครีเอทีฟโฆษณาที่ได้ผล สร้างชิ้นงานโฆษณาแบบข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ หลากหลายรูปแบบ และให้ความสําคัญกับครีเอทีฟบนเว็บไซต์ของคุณ
- ถ้าคุณเป็นลูกค้า Search ระดับองค์กร ให้อัปเกรดเป็น Search Ads 360 แบบใหม่เพื่อเข้าถึง Performance Max และฟีเจอร์อื่นๆ ที่ทํางานได้หลายแพลตฟอร์ม
ปรับทัศนคติเพื่อนําองค์กรสู่ความสําเร็จ
- พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการทําการตลาดให้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกําไรแทนที่จะเป็นค่าใช้จ่าย
- สร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการทดลอง ทดสอบ เรียนรู้ แล้วนําไปปรับใช ้ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น
- ปรับตัวอยู่ตลอดและทลายการทํางานแบบ Silo ทั้งในส่วนของ ข้อมูล, งบประมาณ และช่องทาง
สินชัย ลาภสิริผล ผู้อำนวยการสำนักงานผู้อำนวยการสายงานกลุ่มขาย และผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดดิจิทัล บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “การใช้ Performance Max ควบคู่กับ Search Broad Match เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ Isuzu เข้าถึงลูกค้าที่สนใจซื้อรถได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด และเมื่อเราเชื่อมข้อมูล First Party ทำให้ได้อินไซต์ที่เป็นประโยชน์ ผลที่ได้คือเราได้จำนวน Lead ที่มีคุณภาพมากขึ้นในต้นทุนที่สมเหตุสมผล เป็นการทำการตลาดที่มีประสิทธิผลทางธุรกิจอย่างแท้จริง”
Google เป็นผู้นำด้านโซลูชันการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยในอนาคตอันใกล้นี้เครื่องมือเพื่อการตลาด Generative AI ของ Google จะสามารถช่วยลดความซับซ้อนและสามารถทำงานได้รวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น เพื่อการเปิดตัวแคมเปญการตลาดให้ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน ดูรายละเอียด Google AI Essentials Checklist ดาวน์โหลดได้ ที่นี่