หมอดู SMS 600 ข้อความต่อชั่วโมง

ชื่อเสียงในการทำนายของต้องจิต ติดจรวด ติดอันดับหมอดูรุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว และเป็นที่สนใจของคนรักคำทำนายมากขึ้นทุกวัน ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวทั้งหน้าตา การทำนาย ที่เขาให้นิยามตัวเองว่า ตรงไปตรงมา กระชับ เข้าใจ 

สมพล รุ่งกิติพงษ์พันธ์ คือชื่อจริงของต้องจิต ที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะส่ายหน้าไม่รู้จักเมื่อเอ่ยชื่อนี้ แต่นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของต้องจิต ที่เขาบอกว่าอาชีพที่เป็นหลักเป็นฐานมากที่สุดก็คือ สื่อมวลชน และพ่อค้า

ในฐานะสื่อมวลชน ต้องจิตทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการของตัวเองทางช่องซุปเปอร์บันเทิง ของ ASTV ส่วนพ่อค้านั้น คือการเป็นเจ้าของร้านอาหารในโครงการเมโทร พาร์ค ที่ถนนกัลปพฤกษ์ ที่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นานหลังจากที่เลิกราจากร้านกาแฟที่ทำมาก่อนหน้านี้

“การทำหน้าที่หมอดู เป็นการทำงานเพื่อสังคมมากกว่า  เพราะผมไม่ได้ตั้งราคาในการดูหมอ แล้วแต่จะให้ และเงินที่ได้มาก็จะนำไปทำบุญทั้งหมด”  

ซึ่งการทำบุญของต้องจิตก็คือ การเข้าไปช่วยสร้างอาคาร สิ่งก่อสร้างของวัดต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามีอยู่ 2 วัด และตั้งใจว่าจะทำอย่างต่อเนื่องด้วย

การเข้าสู่แวดวงการพยากรณ์ของต้องจิต เพราะพี่ๆ เพื่อนร่วมงานในเครือ ASTV เห็นความสามารถพิเศษของต้องจิตในเรื่องของจิตสัมผัส และสามารถดูดวงได้ จึงได้รับการชักชวนจากต่อพงษ์ เศวตามร์ ผู้บริหารช่องซุปเปอร์บันเทิง  ให้มาเป็นหมอดดูในรายการ แต่ต้องหารูปแบบใหม่ๆ ในการนำเสนอ

การดูหมอผ่าน SMS จึงเกิดขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งต้องจิตบอกด้วยว่าอาจจะเป็นครั้งแรกของโลกก็ได้

วิธีการดูก็คือ ให้ผู้ชมที่ต้องการดูดวงส่งวันเดือนปีเกิด  และเพศ พร้อมกับ 1 คำถาม มาทาง SMS และต้องจิตก็จะเปิดไพ่ยิปซีทำนายให้แบบทันใจ รวดเร็ว รูปแบบนี้ทำให้ผู้ชมสนใจและส่ง SMS มาถล่มทลาย  

ต้องจิตบอกว่า เคยทำสถิติดูดวงผ่าน SMS แบบนี้ ถึง 600 รายต่อ 1 ชั่วโมง ดูกันแบบเปิดไพ่ไม่ทัน เพราะรายการมีเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำให้มีคำถามเข้ามามาก จนสถานีต้องขยายวันให้อีก จึงทำให้อัตราความเร็วในการดูลดลง  อยู่ที่ 100-200 รายต่อชั่วโมง

นี่คือที่มาของฉายา ติดจรวด ซึ่งเป็นคำต่อท้ายที่ผู้ชมซุปเปอร์บันเทิงโหวตเลือกให้กับต้องจิต จนกลายเป็นชื่อเรียกติดปากกันในทุกวันนี้ว่า ต้องจิต ติดจรวด

ความเร็วในการดูดวง ไม่ได้ส่งผลกระทบกับความแม่นยำแต่อย่างใด แม้จะดูแบบรวดเร็ว อัตราความแม่นยำอยู่ที่ 80% จากปากของผู้ถามเอง ที่ให้คำยืนยันว่าถูกต้อง 

ความเป็นหมอดูของต้องจิต ไม่ได้สะท้อนออกมาจากเสื้อผ้า หรือคำนิยามต่อท้าย หากคนที่ไม่รู้จักต้องจิตมาก่อน เดินผ่านก็คงนึกว่าเห็นผู้ชายวัยทำงาน แต่งตัวตามสมัยนิยม มีกำไล เครื่องประดับตามปรกติ ซึ่งเขาบอกว่า  ต้องการเป็นคนธรรมดาทั่วไปมากกว่าที่จะเป็นหมอดูชื่อดัง ที่มีความสามารถพิเศษติดต่อกับโลกเร้นลับได้ 

และนั่นเป็นที่มาของการปฏิเสธการชักชวนเข้าร่วมเป็นหมอดูผ่านระบบต่างๆ หรือเป็นหมอดูประจำเว็บไซต์  เพราะต้องจิตไม่นิยมดูดวงแบบละเอียดผ่านทางโทรศัพท์  ต้องมานั่งดูกันให้จริงจัง