เรียกได้ว่า แลกหมัด กันสนุก สำหรับสงครามด้านเทคโนโลยีระหว่าง จีน กับ สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป โดยเฉพาะในด้านของ ชิป หรือ เซมิคอนดักเตอร์ ที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด เพราะต้องใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์และตู้เย็น และยังถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญใน การใช้งานทางทหาร และ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีแผนที่จะ จำกัดการส่งออกชิปที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลด้านเอไอไปยังจีน เนื่องจากมองว่าชิปเหล่านี้จะช่วยทำให้ เพิ่มศักยภาพให้กับคู่แข่ง ซึ่งอาจกระทบกับสหรัฐอเมริกาในภายหลังนอกจากสหรัฐฯ แล้ว รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ก็ได้ แบนการส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปให้กับจีน โดยให้เหตุผลเรื่องของความมั่นคง
ล่าสุด จีน ก็ได้ออกมาตอบโต้มาตรการดังกล่าว โดยกำลัง จำกัดการส่งออกโลหะสองชนิดที่เป็นกุญแจสำคัญในการผลิตชิป ซึ่งประกอบด้วย สารประกอบแกลเลียม และ เจอร์เมเนียม โดยความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเพื่อชิงความเป็นใหญ่ทางเทคโนโลยี เนื่องจาก จีนถือเป็นแหล่งแร่โลหะทั้งสองชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการศึกษาของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับวัตถุดิบที่สำคัญในปีนี้
กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า กฎระเบียบใหม่นี้ ถูกกำหนดขึ้นด้วยเหตุผลด้าน ความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น ผู้ส่งออกต้องขอใบอนุญาตในการขนส่งโดยต้องระบุประเทศปลายทางที่จะส่งออกไป โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้
จากมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นของผู้ผลิตเจอร์เมเนียมของจีนพุ่งสูงขึ้น อาทิ Yunnan Lincang Xinyuan Germanium Industrial ที่หุ้นพุ่งขึ้นถึง 10% ในเซินเจิ้น ขณะที่ Yunnan Chihong Zinc & Germanium ที่ขึ้นสูงกว่า 7.5%
ย้อนไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ออกกฎข้อจำกัดใหม่ ๆ โดยพุ่งเป้าไปเพื่อระงับการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน เพื่อทำลายเป้าหมายของจีนที่ต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ชักชวนประเทศผู้ผลิตชิปที่สำคัญ เช่น เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น ให้ออกมาตรการจำกัดการส่งออก
อย่างไรก็ตาม จีนได้พยายามที่จะเจรจากับเนเธอร์แลนด์ ไม่งดส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยอ้างว่าจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก เนื่องจากบริษัทอย่าง ASML ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องสำหรับผลิตชิปรายใหญ่ของโลกที่มีฐานการผลิตในเนเธอร์แลนด์จะไม่สามารถส่งออกเครื่องรุ่นที่มีศักยภาพสูงซึ่งสามารถผลิตชิปที่มีขนาดเล็กกว่า 5 นาโนเมตรไปยังจีนได้
ขณะที่มาตรการการจำกัดการส่งออกชิปเอไอไปยังจีนของสหรัฐฯ นั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทอย่าง Nvidia โดย Colette Kress ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nvidia เปิดเผยว่า รายได้ส่วนใหญ่ของ Nvidia data center ในจีนคิดเป็น 20-25% ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว การที่รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดด้านกฎระเบียบการส่งออกจะยิ่งทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ
