“สิงห์” กระหึ่มวงการกอล์ฟโลกอีกครั้ง หลังโดนใจรายการกอล์ฟระดับตำนานอย่าง “ดิ โอเพ่น” (The Open) การแข่งขันกอล์ฟที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของโลก ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 151 ปี ได้ติดต่อทาบทามให้เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในฐานะออฟฟิศเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ (Official Beer Partner) ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2023 – 2025 ตอกย้ำภาพลักษณ์เบียร์ไทยระดับเวิลด์คลาส ก้าวสู่การเป็น Global Brand ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล
นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย เปิดเผยว่า นอกจากให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งต่อตลาดประเทศไทยแล้ว สิงห์ยังมุ่งมั่นขยายการทำตลาดในต่างประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ “แบรนด์สิงห์” ในฐานะผู้ผลิตสินค้าไทยที่มีคุณภาพ พร้อมเพิ่มความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วโลก ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อเร่งขยายตลาด ทั้งการเพิ่ม จุดจำหน่าย เพิ่มการกระจายสินค้า หรือสร้างฐานผลิตในต่างแดน รวมทั้งใช้กลยุทธ์การตลาดผ่าน Sport Marketing ด้วยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรายการกีฬาสำคัญระดับโลก เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคยกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด สิงห์ ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟ ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทาง การหรือ Official Beer Partner ของดิ โอเพ่น ครั้งที่ 151 รายการกีฬาที่ถือได้ว่าเป็น Iconic แห่งวงการกอล์ฟ และมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์กีฬาวงสวิงมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในสนามสำคัญระดับโลกที่บรรดานักกอล์ฟอาชีพทั่วทุกมุมโลกต้องการเข้าร่วมรายการด้วย ได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ภายใต้ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2023-2025 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแบรนด์สิงห์ที่ได้ร่วมสนับสนุนกีฬาระดับตำนานของโลกอีกครั้ง
“ที่ผ่านมา สิงห์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนรายการแข่งขันกีฬาชั้นนำ รวมทั้งสโมสรกีฬาระดับโลกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอลชั้นนำของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และเลสเตอร์ การเป็นพาร์ทเนอร์กับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี และการเข้าสู่วงการแข่งรถสูตรหนึ่ง หรือ เอฟวัน ซึ่งถือเป็นเบียร์สองแบรนด์แรกที่เข้ามาสนับสนุนวงการแข่งรถเอฟวัน โดยสิงห์ได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนทีมแข่งที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่าง ทีมเรดบูล เรซซิ่ง และ เฟอร์รารี่ จนถึงทีมระดับตำนานอย่าง อัลฟ่า โรมิโอ ในปัจจุบันซึ่งการได้เป็นแบรนด์ในทำเนียบของรายการกีฬาที่มีความยิ่งใหญ่ระดับตำนาน มีฐานผู้ชมจำนวนมาก ช่วยให้แบรนด์สิงห์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับโลกมากขึ้น รวมถึงสามารถดึงดูดความสนใจจากรายการกีฬาประเภทใหม่ๆ ติดต่อยื่นข้อเสนอเพื่อทำงานร่วมกันในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการสนับสนุนการแข่งขันกีฬาต่างๆ”
นีล อาร์มิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด อาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขัน ดิ โอเพ่น กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “สิงห์ เป็นเบียร์พรีเมี่ยมของไทยที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา พวกเรารับรู้ว่า สิงห์ เป็นผู้สนับสนุนหลักของวงการกอล์ฟไทยมาตลอด ทั้งในการสร้างนักกอล์ฟระดับอาชีพ รวมถึงสมัครเล่น จนนักกอล์ฟไทยหลายคนประสบความสำเร็จในระดับโลก เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ได้ร่วมงานกับ สิงห์ ในฐานะ ออฟฟิเชียล เบียร์ พาร์ทเนอร์ ของการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ตั้งแต่ปี 2023-2025”
สำหรับรายการแข่งขันกอล์ฟ “ดิ โอเพ่น” เป็นหนึ่งใน 4 รายการระดับเมเจอร์ของโลก ซึ่งประกอบด้วย เดอะ มาสเตอร์ส, ยูเอส โอเพ่น, พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ และดิ โอเพ่น โดยเป็นเมเจอร์รายการเดียวที่จัดการแข่งขันนอกประเทศสหรัฐ และมีบรรดานักกอล์ฟแถวหน้าของโลกเข้าร่วมการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การแข่งขันครั้งล่าสุด “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 150 ในปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก ด้วยยอดผู้เข้าชมในสนามเซนต์ แอนดรูว์ โอลด์ คอร์ส ตลอดทั้ง 4 วัน จำนวนมากกว่า 210,000 คน และผู้เข้าชมวันซ้อมอีกกว่า 80,000 คน รวมจำนวนผู้เข้าชมทั้งสิ้นประมาณ 290,000 คน ทุบสถิติการมีผู้เข้าชมสูงสุดของรายการในปี 2543 ที่มีจำนวนผู้เข้าชมรวม 239,000 คน
อย่างไรก็ตาม การเป็น Official Beer Partner ยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์สิงห์สำหรับการต่อยอดโอกาสในตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการเป็นที่รู้จักระดับ Worldwide พร้อมเร่งเข้าไปบุกตลาดอย่างจริงจังเพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าไปสร้างฐานการผลิตเบียร์ในประเทศอังกฤษ เพื่อป้อนสู่ตลาดในแถบยุโรปรองรับดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน รวมไปถึงการขยายพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม พร้อมสร้างโอกาสในการเติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต
“การเข้ามาสนับสนุนรายการกอล์ฟเก่าแก่ของโลกอย่างดิ โอเพ่น ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็น World Class ให้กับแบรนด์สิงห์ได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อการสร้างแบรนด์ รวมทั้งความสามารถในการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอังกฤษรวมทั้งภูมิภาคยุโรป จากดีมานด์ต่อสินค้าที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามมา พร้อมทั้งเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ฐานะของการเป็น Global Brand ของสิงห์ได้อย่างแท้จริง” นายวรวุฒิ กล่าว
Related