10 บริษัท “อสังหาฯ” ประกาศรายได้-กำไร ครึ่งปีแรก 2566

อสังหา 2566 ครึ่งปีแรก
  • เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2566 ของบริษัท “อสังหาฯ” จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบส่วนใหญ่ทำกำไรและฟื้นตัวแล้วเมื่อเทียบช่วงครึ่งปีแรก 2565 จากกลยุทธ์เน้นการขายบ้านเดี่ยวหรู กลุ่มสินค้าที่ผู้ซื้อยังมีกำลังทรัพย์ ขณะที่คอนโดฯ เริ่มกระเตื้องขึ้นบ้าง
  • คาดครึ่งปีหลังตลาดอสังหาฯ ยังไม่โตแรง เพราะการเมืองไม่ชัดเจน และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ลูกค้ายิ่งกู้สินเชื่อยากขึ้น

Positioning รวบรวมผลประกอบการบริษัท “อสังหาริมทรัพย์” 10 บริษัท (ดูตามภาพประกอบ) พบว่าส่วนใหญ่ทำกำไรในช่วงครึ่งปีแรก 2566

7 ใน 10 บริษัทสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้แบบดับเบิลดิจิต โดยบริษัทที่สามารถทำอัตรากำไรสุทธิสูงสุด คือ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิถึง 19.97% ส่วนบริษัทที่สร้างเม็ดเงินกำไรสุทธิสูงสุด คือ บมจ.แสนสิริ (SIRI) โกยกำไรไป 3,203 ล้านบาท

 

ครึ่งปีแรกฟื้นตัวได้จากตลาดบ้านหรู

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ “แอล ดับเบิลยู เอส” บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาฯ ในเครือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ประเมินว่าในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งตลาดอสังหาฯ มีการเปิดตัวโครงการใหม่กว่า 45,000 หน่วย ลดลง -13.0% YoY แต่มูลค่าโครงการเปิดตัวใหม่อยู่ที่กว่า 203,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% YoY

ดังที่เห็นว่าจำนวนหน่วยที่เปิดตัวลดลง แต่มูลค่ากลับเพิ่มขึ้น เป็นเพราะผู้ประกอบการหันมาเน้นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์มากขึ้น

โดยทางแอล ดับเบิลยู เอส พบว่า บ้านเดี่ยวราคาเกิน 10 ล้านบาทมีการเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 24.9% หากวัดจากจำนวนหน่วย และเพิ่มขึ้นถึง 61.45% ถ้าวัดจากมูลค่าโครงการ บ้านเดี่ยวหรูที่เปิดในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้มีราคาเฉลี่ยกว่า 23 ล้านบาทต่อหลัง

 

คอนโดฯ เริ่มกระเตื้อง

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2566 รายได้ 65% ของบริษัทยังมาจากโครงการแนวราบเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แต่อีก 35% ที่มาจากคอนโดฯ ก็สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดคอนโดฯ เริ่มฟื้นแล้ว

สอดคล้องกับ วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บมจ.แสนสิริ ระบุว่ารอบครึ่งปีแรก 2566 สินค้าคอนโดฯ โดยเฉพาะที่เป็นคอนโดฯ พร้อมอยู่ (Ready to Move) ได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้น มีสัญญาณฟื้นตัวทั้งจากกลุ่มซื้ออยู่เองและต้องการลงทุนปล่อยเช่า

 

ครึ่งปีหลังยังไม่เปรี้ยง

ประพันธ์ศักดิ์ แห่งแอล ดับเบิลยู เอส ยังประเมินด้วยว่า สถานการณ์ครึ่งปีหลังของภาคอสังหาฯ ก็จะยังฟื้นตัวไม่มากต่อไป โดยเชื่อว่าทั้งปี 2566 นี้ภาคอสังหาฯ จะเติบโตไม่เกิน 5% จากปีก่อน

เหตุเพราะ “หนี้ครัวเรือนไทย” สูงมากทำให้ขาดกำลังซื้อ และ “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” ยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง (ปัจจุบันอยู่ที่ 2.25% สูงสุดในรอบ 9 ปี) รวมถึง “ความไม่แน่นอนทางการเมือง” ทำให้ไตรมาส 3 นี้ผู้ประกอบการหลายบริษัทชะลอการเปิดตัวโครงการไปก่อน ซึ่งถ้าหากการเมืองมีความชัดเจนเมื่อใด อาจจะได้เห็นธุรกิจอสังหาฯ เร่งเปิดโครงการกันในไตรมาส 4 ทดแทน

อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) กล่าวสอดคล้องกันว่า ครึ่งปีหลังตลาดจะยังคงได้รับผลกระทบทั้งหนี้ครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยสูง และการเมืองไม่แน่นอน ซึ่งทางพฤกษาเองแก้กลยุทธ์ปรับไปเปิดโครงการระดับพรีเมียมมากขึ้นแล้วเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และหวังว่าครึ่งปีหลังเมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้วจะช่วยเร่งแก้ปัญหาลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก