· เหนือกว่า ล้ำกว่า ครบทุกมิติด้วย End-to-end Protection ปกป้องครบวงจรมาตรฐานโลก , 24/7 Smart Monitoring เฝ้าระวังแบบอัจฉริยะ 24 ชั่วโมง และ Best-in-class Partnership ผนึกพาร์ทเนอร์ระดับเวิลด์คลาส
ยกระดับความใส่ใจขั้นสูงสุดให้ลูกค้าปลอดภัยกว่า เมื่อมีกันและกัน…ทรู คอร์ปอเรชั่น ก้าวสู่เทเลคอม-เทคคอมปานีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย ย้ำภาพผู้นำซีเคียวริตี้ ทั้งโครงข่ายและบริการดิจิทัล เต็มรูปแบบ รวมทั้งปกป้องดูแลครอบคลุมทุกความปลอดภัยของลูกค้าและครอบครัว เปิดตัว “ทรู-ดีแทค ซีเคียวริตี้” ชู 3 จุดเด่น End-to-end Protection ปกป้องภัยคุกคามทางโลกออนไลน์ครบวงจรทั้งบนเครือข่าย และแอปพลิเคชันตามมาตรฐานโลก, 24/7 Smart Monitoring ระบบป้องกันทันท่วงที ตรวจติดตามเฝ้าระวังการทำงานของระบบต่างๆแบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง, Best-in-class Partnership พร้อมผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับเวิลด์คลาสทั้งด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ อาทิ คลาวด์ สไตร์ท – พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์- เวคตร้า เอไอ และด้านประกันภัย อย่าง FWD ทิพยประกันภัย ส่งมอบบริการด้านความปลอดภัยแบบเหนือชั้น และประสบการณ์ที่ดีที่สุด การันตีจาก NIST (National Institute of Standards and Technology) สหรัฐอเมริกา ซึ่งประเมิน ค่า NIST Score ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เหนือกว่าค่ามาตรฐานโลก (Global Benchmark) พร้อมดูแลเพิ่มความมั่นใจสูงสุดทุกการใช้บริการดิจิทัลกลุ่มทรู ทั้งดิจิทัลมีเดีย- ทรูไอดี ,ดิจิทัลโฮม -TrueX และ ดิจิทัลเฮลท์ -หมอดีด้วยระบบ e-KYC พิสูจน์ตัวตนลูกค้าและการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุดระบบตรวจจับการบุกรุกโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 24 ชั่วโมง ตลอดจนจัดเต็มแพ็กเกจปกป้องคุ้มครอง ดูแลลูกค้ามอบประกันภัย ประกันชีวิตและอุบัติเหตุสุดคุ้ม รวมถึง ความคุ้มครองดูแลมือถือและแท็บเล็ตสุดพิเศษให้ลูกค้า ทรู-ดีแทค ใช้ชีวิตยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย สบายใจยิ่งขึ้นในทุกๆวัน
นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“เพราะทรู เป็นแบรนด์ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน (Your Everyday Living Tech) ทำให้เราทั้งทรูและดีแทคตั้งใจจริงที่จะทำให้ลูกค้าสบายใจ ในการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยยิ่งกว่าซึ่งหลังการควบรวมกิจการทำให้เรานำความเชี่ยวชาญของทั้งทรูและดีแทค มารวมพลังเพื่อดูแลลูกค้าคนสำคัญให้รอดพ้นจากภัยคุกคามที่มากับโลกยุคดิจิทัล ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในระดับองค์กร ระดับบุคคล ทรู จึงยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด เปิดตัว True I dtac SECURITY ที่จะสะท้อนการปกป้องและดูแลความปลอดภัยทุกระบบแบบครบวงจร ตอกย้ำถึงความปลอดภัยยิ่งกว่าเมื่อมีกันและกัน Safer together ลูกค้าจะมั่นใจได้ทันทีเมื่อเห็นสัญลักษณ์ True I dtac SECURITY บนสินค้าและบริการจากทรู เหนือกว่าด้วยการดูแลความปลอดภัยให้ลูกค้าด้วยมาตรฐานระดับโลกด้วย การันตีด้วยคะแนน NIST Score ที่ประเมินความมั่นคงปลอดภัยทางโลกออนไลน์ที่สูงกว่าค่า
มาตรฐานโลก ชู 3 จุดเด่นคือ 1.End-to-end Protection ป้องกันการโจมตีทางโลกไซเบอร์ครอบคลุม ครบครันทุกการใช้งานทั้งเน็ตเวิร์ค คลาวด์ และสมาร์ทดีไวซ์ รวมถึงบริการดิจิทัล 2.24/7 Smart Monitoring ระบบป้องกันการโจมตีแบบทันท่วงที ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ การันตีคุณภาพด้วยใบรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 3.Best-in-class Partnership ผสานความแข็งแกร่งกับพันธมิตรชั้นนำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก อาทิ บริษัท คลาวด์ สไตร์ท อินคอร์พอเรชั่น จำกัด บริษัท พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ และบริษัท เวคตร้า เอไอ รวมถึงบริษัทประกันชั้นนำอย่าง FWD และ ทิพยประกันภัย ซึ่งนอกเหนือความมั่นใจระบบความปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ทรูก็ยังตอกย้ำทุกความปลอดภัยลูกค้าคนสำคัญและครอบครัวในยุคดิจิทัล ด้วยแพ็กเกจที่ครอบคลุมทั้งการปกป้องคุ้มครองจากภัยไซเบอร์ทั้งในส่วนลูกค้าองค์กร และรายบุคคล การประกันภัย และประกันชีวิตและอุบัติเหตุสุดคุ้ม รวมถึง ความคุ้มครองดูแลมือถือและแท็บเล็ตสุดพิเศษอีกด้วย”
นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หนึ่งในพันธกิจสำคัญของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งสู่ความเป็น เทเลคอม-เทคคอมปานีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย คือการสร้างและขยายโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมให้แข็งแกร่ง และครอบคลุมทั่วประเทศรวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยแบบสูงสุดให้กับลูกค้าผู้ใช้งานทุกบริการ ซึ่งการพัฒนา True I dtac SECURITY นี้ เป็นความตั้งใจของทีมงานทุกคนที่จะเพิ่มการป้องกันระบบโครงสร้างพื้นฐาน เครือข่าย คลาวด์ ทุกระบบแบบครบวงจร ให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามในปัจจุบันแบบสูงสุด ผ่านระบบป้องกันภัยไซเบอร์อัจฉริยะ ครอบคลุม 5 ด้านทั้ง
1. Infrastructure Security การป้องกันระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์การใช้งานให้ปลอดภัยจากภัยคุกคาม อาทิ ตรวจจับความผิดปกติหากมีการทำงานที่เข้าข่ายความเสี่ยงจะถูกห้ามใช้งานทันที การตรวจสอบช่องโหว่ของระบบ และแก้ไขก่อนถูกโจมตี การยืนยันเข้าใช้งานระบบปฏิบัติการด้วยผู้ดูแลระบบ เป็นต้น
2. Network Security การป้องกันภัยคุกคาม และการโจมตีบนเครือข่ายที่ช่วยจำกัดสิทธิการเข้าถึงระบบ โดยกำหนดให้เฉพาะผู้ใช้งาน หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ป้องกันภัยคุกคามที่เข้ามาทาง เว็บ หรือแอปพลิเคชัน พร้อม Zero trust network ที่บังคับให้ทุกระบบต้องมีการขออนุญาตก่อนการเชื่อมถึงกัน
3. Cloud Security การป้องกันระบบโครงสร้างบนคลาวด์ ให้ปลอดภัยด้วยระบบช่วยตรวจสอบการตั้งค่า และช่องโหว่ต่างๆ ให้ถูกต้องและปลอดภัยอยู่เสมอ
4. 24/7 Smart Security Management ระบบเฝ้าระวังภัยคุกคาม ตรวจสอบและรับมือตลอด 24 ชั่วโมงด้วย Security Center Operation จากเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับระบบ AI รวบรวมข้อมูลการใช้งานจากระบบต่างๆ ในมาวิเคราะห์และหาสาเหตุเมื่อเกิดเหตุขึ้น
5. Best-in-Class Partnership ผสานความแข็งแกร่งกับพันธมิตรชั้นนำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก ยกระดับมาตรฐาน และเสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการด้านบริหารจัดการระบบความปลอดภัยไซเบอร์ อาทิ บริษัท คลาวด์ สไตร์ท อินคอร์พอเรชั่น จำกัด บริษัทซี-สเกเลอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท อิมเพอว่าร์ ประเทศไทย บริษัท พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ และบริษัท เวคตร้า เอไอ
ลูกค้าทรู-ดีแทค จึงมั่นใจได้ในศักยภาพของเทคโนโลยีจาก True I dtac SECURITY ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลให้ปลอดภัยไร้กังวลแบบสูงสุด
นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการให้บริการดิจิทัล ได้ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องการดูแลความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ โดยการปกป้องข้อมูลแบบรอบด้านมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส โดดเด่นด้วยการบริหารจัดการความปลอดภัยแบบบูรณาการ
(1) มีระบบตรวจจับการบุกรุกโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ไม่ประสงค์ดี ซึ่งต่างจากพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าทั่วไป
(2) มีการใช้งานสถาปัตยกรรม Zero-trust
(3) ใช้งานระบบข่าวกรองไซเบอร์ (Threat Intelligence Platform)
(4) การพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าด้วยระบบ e-KYC ที่มีการตรวจสอบตัวตน 2 ชั้นในการ log in เข้าสู่ระบบในครั้งแรก
(5) มีการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการปกป้องประวัติการรักษาพยาบาลของลูกค้า
ทรูมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาบริการดิจิทัล เพื่อให้ชีวิตลูกค้าดียิ่งขึ้นทุกวัน ดังนั้นนอกเหนือจากการดูแลความปลอดภัยสร้างความมั่นใจด้านโครงข่ายแล้ว ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ให้ลูกค้ามั่นใจ ไร้กังวลได้เต็มที่ในทุกครั้งที่ใช้บริการดิจิทัลของทรู ไม่ว่าจะเป็น ด้านสื่อและความบันเทิง อย่าง TrueID แพลตฟอร์มความบันเทิงอัจฉริยะ ที่มีคอนเทนต์ระดับโลกครบทั้งกีฬา หนัง ซีรีส์ อนิเมะ รายการวาไรตี้ ด้านโฮมโซลูชันและการอยู่อาศัยผ่าน True X เทคโนโลยีที่รวบรวมโซลูชันที่ครบรอบด้านได้สะดวกสบายกว่าที่เคย ผ่านแอปพลิเคชัน TrueX แอปฯ เดียวที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใช้ชีวิตดีแบบทวีคูณ โดยเฉพาะเทคโนโลยีดูแลบ้านอัจฉริยะ (X Home) รวมถึงบริการด้านสุขภาพผ่านแอป “หมอดี” แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะที่เชื่อมโยงบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ซึ่ง True I dtac SECURITY สำหรับบริการดิจิทัลจะไม่เพียงเสริมเกราะป้องกันระบบ แต่ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี และการให้บริการแบบมืออาชีพนี้ จะทำให้ ลูกค้าทรู-ดีแทคใช้ชีวิตยุคดิจิทัลได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น โดยไม่มีความกังวลด้านความปลอดภัยของระบบทั้งหมดของห่วงโซ่การใช้งาน
พิเศษ! ลูกค้าทรู-ดีแทค มั่นใจ ทั้งปกป้อง คุ้มครอง ปลอดภัยยิ่งกว่าเมื่อมีกันและกัน
ลูกค้าแบบรายเดือน สมัครแพคเกจ 5G Together+ และ 5G Better+ รับฟรีประกันชีวิต และอุบัติเหตุ ความคุ้มครอง รวมสูงสุดกว่า 320,000 บาท* รวมถึงลูกค้าแบบเติมเงิน ยิ่งอยู่ยิ่งได้ยิ่งใช้ยิ่งคุ้ม เมื่อเปิดเบอร์ใหม่ พร้อม สมัครแพคเกจ 300 บาท ได้เน็ตแรง แถมโทรฟรี พร้อมรับประกันความคุ้มครองชีวิต สะสมรวมสูงสุด 270,000 บาท ลูกค้าทรูออนไลน์ สมัครเน็ตบ้าน รับฟรีประกันภัยที่อยู่อาศัยจากทิพยประกันภัย และประกันชีวิต กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จาก FWD คุ้มครองนาน 24 เดือน หรือจะเลือกปกป้องดูแลโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตเครื่องใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของลูกค้าทุกคนได้รับการดูแลในทุกการใช้งาน ด้วย dtac Mobile Care หรือจะเป็น True Protech บริการดูแล และส่งซ่อมมือถือ ไม่ว่า ตก แตก เปียก พัง แม้แต่สูญหาย ก็อยู่ในบริการทั้ง 2 บริการนี้ เพียงเริ่มต้น 39 บาท ต่อเดือน เท่านั้น และ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดที่ไม่หยุดพัฒนา จากสถิติผู้ซื้อมือถือใหม่ 100 เครื่องจะพบว่ากว่า 80% จะพบเหตุการณ์หรือการใช้งานที่จะต้องใช้บริการ ดูแล และส่งซ่อมมือถือ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายค่าซ่อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนอุปกรณ์มือถือทำให้ต้นทุนค่าซ่อมที่ลูกค้าต้องจ่ายจึงเพิ่มขึ้น ทางบริษัทฯ จึงได้ตอบสนองต่อตลาด ออกบริการใหม่ SWAP+ จาก dtac Mobile Care คือบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ได้ดียิ่งขึ้น SWAP+ จะเป็นหนึ่งในบริการที่ทำให้ลูกค้าดีแทคออกไปใช้ชีวิตในอย่างที่จะเป็น โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องโทรศัพท์เครื่องใหม่ สนใจสมัคร ได้ที่ทรูช็อป และ ศูนย์บริการดีแทคทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ dtac Mobile Care https://www.dtac.co.th/dtac-mobile-care/ และ True Protech https://www.true.th/news/truemoveh/trueprotech/