ส่องโลก Instagram กับคนดัง แบรนด์เด่น

แบรนด์นอก ส่วนใหญ่ใช้ Instagramเพื่อแสดง Brand Personality ด้วยความสนุกสนานกับรูปภาพสไตล์เรโทร ผลที่ได้คือทำให้ผู้บริโภครู้สึกใกล้ชิดและผูกพันกับแบรนด์มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความอยากและปรารถนาที่จะครอบครอง พวกเขาจะรู้สึก “อิน” และภาคภูมิใจในความเป็น Early Adopter 

หากจะว่าไปแล้ว Instagram ยังอยู่ในช่วงทดลอง และยังไม่มีแอคเคานต์พิเศษสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะเหมือนอย่างแบรนด์เพจใน Facebook โดยขั้นตอนการสมัครก็ง่ายๆ แต่ต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง นอกเหนือจาก Username แล้ว ต้องระบุชื่อบริษัท เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ชื่อแบรนด์ที่เป็นเทรดมาร์ก ตลอดจนระบุหมายเลขเทรดมาร์ก 

 

Celebrity          

เซเลบริตี้ในวงการบันเทิงต่างแดนหลายคนตอบรับกระแสนี้อย่างทันท่วงที เช่น Jamie Oliver เชฟชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ หรือนักร้องแร็ปผิวสี Snoop Dogg ก็ใช้งาน Instagram จนมีผู้ที่ Follow เขาใน Instagram เช่นเดียวกับการที่มี Follower ติดตามความเคลื่อนไหวของเหล่าคนดังในทวิตเตอร์ โดยตอนนี้ Jamie Oliver มีคนให้ความสนใจกับภาพถ่ายของเขา 73,000 กว่าราย ซึ่งเขาไม่ได้โฟกัสเฉพาะเรื่องอาหารเท่านั้น หากแต่รวมถึงเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ผ่านมุมมองของเขาด้วย 

ส่วน Snoop Dogg เซเลบริตี้รายแรกๆ ที่ใช้ Instagramมีคนติดตาม 65,000 ราย ล่าสุดนักร้องวัยรุ่น Justin Bieberก็หันมาเล่น Instagram กับเขาด้วย โดยแชร์ผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งมีคนติดตามเขาอยู่แล้วราว 11 ล้านคน ทำให้มีผู้ที่คลิกติดตามเขาใน Instagram ต่อด้วยอัตราเฉลี่ย อีก 50 คนต่อ 1 ภายใน 1 นาที ขณะที่ Selena Gomez แฟนสาวเขาก็คลั่งไคล้แอพฯ นี้ไม่แพ้กัน 

ว่ากันว่า นี่คือเทรนด์ล่าสุดที่บรรดาเซเลบริตี้ทั้งหลายไม่ยอมพลาด!!! เพราะเปิดโอกาสให้พวกเขาเรียกคะแนนนิยมจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี  

 

Media&News Agency ใช้แชร์ภาพ

ส่วนสำนักข่าว CNN iReport เสริมพลังการรายงานข่าวด้วย Instagram โดยแชร์ภาพข่าวที่กำลังเกิดขึ้นตอนนั้น แล้วให้ผู้อ่านคอมเมนต์ 

– Youtube ไม่ได้ใช้เพื่อหวังผลการตลาดแต่อย่างใด แต่ใช้เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นของทีมงาน เหมือนเป็นไดอารี่ประจำออฟฟิศ

– NBC News นอกเหนือจากภาพในสตูดิโอข่าวแล้วยังรวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่นักข่าวได้บันทึกไว้ด้วย เช่น Brian Williams ผู้ประกาศข่าวถ่ายภาพกับซากปรักหักพังหลังทอร์นาโดพัดผ่านอลาบามา เป็นต้น 

– ABC World News ใช้ในการรายงานข่าวต้นชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าว Diane Sawyer

– MTV ใช้ Instagram มาเสริมภาพอีเวนต์ของตัวเองให้ดูตื่นเต้นมากขึ้น แล้วแชร์บรรยากาศสดๆ ให้คนที่ติดตามได้ชม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมงานหรือชมการถ่ายทอดสดก็มาดูภาพเบื้องหลังได้   

– Billboard ก็ไม่ตกเทรนด์ ทีมงานเก็บภาพเบื้องหลังชองนิตยสารที่อัดแน่นไปด้วยรูปภาพเซเลบริตี้ในช็อตแปลกตา 

 

Fashion&Retails

– Burberry นับเป็น Trend Setter ในกลุ่มนี้มีคนติดตามกว่า 130,000 คน นอกเหนือจากภาพนางแบบและนายแบบแล้วยังรวมถึงการแชร์ภาพความเคลื่อนไหวของมหานครลอนดอน อันเป็นต้นกำเนิดแบรนด์ที่มีอายุกว่า 155 ปีนี้ด้วย ที่สำคัญทุกภาพเน้นช็อตสวย ประทับใจ ทำให้ Instagram  ของ Burberryมีชีวิตชีวาและมีมิติที่หลากหลาย  

– Gucci ใช้ Instagram ตอกย้ำคุณค่าแบรนด์หรู ทั้งภาพบนรันเวย์ แฟชั่นเซต ในนิตยสาร ภาพเบื้องหลัง เซเลบริตี้ที่ถูกสแนปขณะใช้ผลิตภัณฑ์ของกุชชี่ รวมถึงอินไซท์เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตที่ไม่ได้เผยแพร่ทั่วไป 

– Kate Spade นอกเหนือจากภาพแฟชั่นแล้ว แบรนด์ดังจากนิวยอร์กยังโพสต์รูปเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์อื่นๆ เช่น อาหาร 

– Topshop ใช้เป็นกิมมิกเก๋ๆ ด้วยกลยุทธ์การตลาดดึงดูดให้ลูกค้าถ่ายรูปผ่าน Instagram ที่ช็อป จากนั้นก็รับโปสต์การ์ดที่มีรูปสไตล์เรโทรกลับไปเป็นที่ระลึก  

– Threadless แบรนด์แฟชั่นเสื้อยืดดีไซน์จ๋าราคาถูก แชร์รูปเสื้อยอดคอลเลกชั่นล่าสุดให้แฟนๆได้ดุก่อนใคร รวมถึงกระบวนการตัดเย็บในโรงงานที่ทำให้ผู้บริโภคได้ตื่นตาตื่นใจไปด้วย 

– Playboy ใช้ในเชิงหวนรำลึกอดีตกับภาพแสนหวานและเซ็กซี่ของเหล่านางแบบเพลย์บอย เพื่อให้แฟนคลับโหยหาอดีตที่น่าหลงใหลของแบรนด์ และปรารถนาที่จะเสพแบรนด์นี้ต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต

– Levi’s บราซิล ใช้เพื่อเป็นกิมมิกในการเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ และเปิดโอกาสให้แฟนๆ ติดตามได้ผ่านทาง levisbrazil เพราะรูปที่ได้มีเสน่ห์กว่าพรินต์แอด และบิลบอร์ด    

– Starbucks ใช้ Instagram ถ่ายภาพสินค้าใหม่กับการตกแต่งร้านแล้วให้แฟนพันธุ์แท้ที่มีอยู่ประมาณ 5,500 คน ช่วยกันออกไอเดีย ซึ่งตรงกับแคมเปญการตลาดที่ผ่านมาของสตาร์บัคส์ ที่มักเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในไอเดียของแบรนด์อยู่ตลอด

– Red Bull ใส่ตัวตนเต็มๆ กับสารพันกีฬาเอ็กซ์ตรีม ทั้ง F1

– NH Hotel โรงแรมในกรุงมาดริด จัดการประกวดภาพผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ด้วยคอนเซ็ปต์ภาพหลังตื่นนอน ให้ลูกค้าของโรงแรมเก็บภาพบรรยากาศกับอารมณ์ตอนตื่นนอนในโรงแรม แล้วแชร์ภาพผ่านทวิตเตอร์ด้วยการติด hashtag #WakeUpPics.    

นอกจากนี้ ถึงแม้จะไม่ได้ถูกใช้เพื่อการตลาด แต่ Instagram ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกเหตุการณ์สำคัญๆ เช่น ความเสียหายของพายุไอรีนที่สหรัฐอเมริกา หรือเหตุจลาจลในลอนดอน และด้วยการแต่งภาพของแอพฯ ก็ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้ดูมีคุณค่ากับการจดจำในแง่ของการเป็นบทเรียนให้กับมนุษยชาติ