ปี 2023 ‘สหรัฐฯ’ ประสบภัยพิบัติรวม 23 ครั้ง เสียหายกว่า 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์ หนักสุดเป็นประวัติการณ์

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้นานาประเทศทั่วโลกหันมาเร่งฟื้นฟูสภาพอากาศทั่วโลกก็เพราะ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เริ่มเกิดมากขึ้นทั่วโลกซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน แต่ประเทศที่ประสบภัยพิบัติมากที่สุดก็ในเวลานี้ก็คือ สหรัฐฯ ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับสูงมากกว่าพื้นที่ใดในโลก

ตามรายงานที่เผยแพร่โดยรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ในปี 2023 นี้ ประเทศได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติถึง 23 ครั้ง ซึ่งเป็นจํานวนสูงสุดนับตั้งแต่ องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA (โนอา) เริ่มเก็บบันทึกในปี 1980 โดยสถิติสูงสุดที่ได้รับการบันทึกไว้คือ 22 ครั้ง ในปี 2020 ซึ่งได้ถูกทำลายลงภายใน 3 ปี และแต่ละเหตุการณ์สร้างความเสียหายเป็นพันล้านดอลลาร์ขึ้นไป

สำหรับภัยพิบัติ 23 ครั้งในปีนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับสหรัฐฯ มากกว่า 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์ และคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 253 คน ตามรายงานของ NOAA โดยหนึ่งในภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปีก็คือ ไฟป่าฮาวาย ที่ทําลายล้างพื้นที่แถบ West Maui, Hawaii ในเดือนสิงหาคม คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 115 คนและสร้างความเสียหายประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พายุเฮอริเคนอิดาเลีย ได้พัดถล่มชายฝั่งบิ๊กเบนด์ของฟลอริดา ซึ่งเป็น พายุเฮอริเคนที่แรงที่สุดที่พัดถล่มภูมิภาคนี้ในรอบ 125 ปี 

ทั้งนี้ จํานวนภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่สร้างความเสียหายหลักหลายพันล้านดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1980 โดยเฉลี่ยแล้ว นับตั้งแต่ปี 1980-2022 มีภัยพิบัติใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 ครั้งทุกปี แต่หากนับเฉลาะแค่ช่วง 5 ปีล่าสุด มีภัยพิบัติขนาดใหญ่เฉลี่ย 18 ครั้งต่อปี ตามข้อมูลของ NOAA

หนึ่งในสิ่งที่ชาวอเมริกันกังวลก็คือ สํานักงานจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลาง หรือ FEMA จะมีเงินเหลือเพียงพอที่จะตอบสนองอย่างเพียงพอเมื่อฤดูพายุเฮอริเคนเข้าสู่จุดสูงสุดหรือไม่ โดย Deanne Criswell ผู้บริหาร FEMA กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า กองทุนมีเงินลดลงเหลือเพียง 3.4 พันล้านดอลลาร์ ทําให้หน่วยงานต้องมุ่งเน้นไปที่ความต้องการเร่งด่วนของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าเมาอิ, พายุเฮอริเคนอิดาเลีย และภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อาจโจมตีในระยะเวลาอันใกล้นี้

“กองทุนภัยพิบัติจะเข้าสู่สีแดงภายในกลางเดือนนี้ในกรณีที่ไม่มีเงินมาช่วยเหลือเพิ่มเติม” 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดนได้ขอให้สภาคองเกรสเพิ่มงบจำนวน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนกองทุน

Source