ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ของ “รู้ใจ” ได้กล่าวถึงโอกาสของการซื้อกิจการของ เอฟดับบลิวดีประกันภัย ว่าจะช่วยให้บริษัทมีช่องทางจำหน่ายกรมธรรม์มากกว่าเดิม และจะเจาะตลาดตามต่างจังหวัดได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าที่จะเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ภายใน 5 ปี
นิโคลัส ฟาร์เกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้
เขาได้กล่าวว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รู้ใจ ได้ระดมทุนรอบ Series B ซึ่งมีผู้ลงทุนนำโดย HDI International ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยระหว่
รู้ใจได้เม็ดเงินลงทุน Series B ทั้งสิ้น 42 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1,509 ล้านบาท ทำให้บริษัทนำเม็ดเงินส่วนหนึ่งมาซื้อกิจการ FWDGI และเอาไปขยายธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียที่กำลังเติบโต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ของรู้ใจ ยังได้กล่าวถึงผลประกอบการบริษัทในงบประจำปี 2022/2023 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทมีผู้ถือกรมธรรม์มีทั้งหมด 149,248 ราย เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทางด้านที่เบี้ยประกัน (Premium) นั้นอยู่ที่ 1329.6 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เบี้ยประกันมาจากประกันประเภทยานยนต์ถึง 95% ที่เหลือคือมาจากประกันประเภทอื่นๆ
กลยุทธ์หลังจากปิดดีลซื้อกิจการ FWDGI สำเร็จ
หลังจากที่เข้าซื้อกิจการ FWDGI นั้น นิโคลัสกล่าวว่าจะใช้กระบวนการเปลี่ยนผ่าน 1-2 ปี จากนายหน้าประกันภัยซึ่งบริษัทได้เป็นพาร์ตเนอร์กับกรุงไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน จะเปลี่ยนไปเป็นรู้ใจประกันภัย เขากล่าวว่ากรมธรรม์ที่มาจากรู้ใจประกันภัยจะเริ่มเห็นได้ช่วงต้นปี 2024 ทันที
การที่บริษัทได้เข้าซื้อ FWDGI เป็นเพราะว่าต้องการควบคุมตั้งแต่การออกผลิตภัณฑ์อย่างกรมธรรม์ ไปจนถึงปลายน้ำอย่างช่องทางขาย หรือแม้แต่การบริการลูกค้า เมื่อการออกกรมธรรม์ได้โดยตรงยังมีข้อดีอีกเรื่องคือบริษัทมีมาร์จิ้นดีมากขึ้น
นอกจากนี้หลังจากที่ปิดดีลกับ FWDGI ก็จะมีการจัดพอร์ตกรมธรรม์ใหม่ โดยกรมธรรม์ที่ไม่ใช่จุดแข็งของบริษัทอย่าง กรมธรรม์ประกันมือถือ กรมธรรม์ประกันภัยทางทะเล ก็จะยกเลิกไป แต่จะไปเน้นจุดแข็งของรู้ใจที่ขายกรมธรรม์ที่เน้นด้านยานยนต์ หรือสิ่งที่บริษัทถนัด
ขณะเดียวกันเขาก็ยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านลูกค้าของบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และจะทำให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ถ้าหากมีอะไรก็จะแจ้งลูกค้าให้ทราบ ทางด้านของนายหน้าประกันภัยเขาชี้ว่าใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของทางบริษัท จะทำให้นายหน้าหรือโบรกเกอร์รายอื่นขายประกันได้สะดวกมากขึ้น
นิโคลัส ชี้ว่าปัจจุบันลูกค้าของรู้ใจตอนนี้มาจากจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร ทำให้บริษัทมองว่ามีโอกาสที่จะเจาะลูกค้าตามจังหวัดอื่นๆ สูงมาก โดยคาดว่า 40% ของโอกาสทางธุรกิ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ของรู้ใจยังได้กล่าวว่าหลังจากนี้จะมีกรมธรรม์ใหม่ๆ และเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เช่น ประกันภัยบ้าน หรือ ประกันที่เกี่ยวกับ SME
ตั้งเป้า IPO ภายใน 5 ปี
สำหรับการทำกำไรในเครือรู้ใจ นิโคลัส ได้กล่าวว่าในประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนั้นบริษัทมีกำไรแล้ว ทางด้านประเทศอินโดนีเซียนั้นตอนนี้บริษัทได้เป็นพันธมิตรกับ Sompo ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น โดยเขาได้กล่าวว่าถ้าหากจะทำให้กิจการที่อินโดนีเซียเติบโตนั้นจะต้องใช้เวลา 4-5 ปี
อย่างไรก็ดีสำหรับกำไรของทั้งกิจการเขาเองได้กล่าวว่ายังไม่ทราบ แต่มองถึงการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม หรือแม้แต่ ไต้หวัน มากกว่า
สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจนั้น “รู้ใจ” ได้วางเป้าหมายเป็นผู้เล่น 1 ใน 10 ของประกันภัยด้านยานยนต์ ยานพาหนะ ในปี 2024 และจะเป็นผู้เล่น Top 3 ภายในอีก 5 ปีหลังจากนี้
ไม่เพียงเท่านี้ รู้ใจยังมีแผน IPO ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าว่าจะมีเบี้ยประกันภัยแตะที่ 10,000 ล้านบาท นิโคลัสกล่าวว่าอาจดูตลาดหุ้นหลายที่ ซึ่งรวมถึงในประเทศไทย และพิจารณาเงื่อนไขทั้งการนำบริษัทในแต่ละประเทศเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แต่ละประเทศ หรือแม้แต่นำทั้งกลุ่มบริษัทเข้าระดมทุน รวมถึงอาจไประดมทุนที่ต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ดีเขากล่าวว่ายังเป็นเรื่องของอนาคต