Beacon VC มอง ESG มีความสำคัญกับทุกภาคส่วนมากขึ้น สตาร์ทอัพไทยจะปรับตัวได้อย่างไร


ปัจจุบัน ESG มีความสำคัญอย่างมากในโลกธุรกิจ เราเห็นข่าวด้านธุรกิจเริ่มพูดถึงประเด็นของ ESG เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเองก็อาจสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร ปัจจัยดังกล่าวทำให้ธุรกิจหรือแม้แต่สตาร์ทอัพเองก็อาจสงสัยว่าทำไมบริษัทของตนจะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

Positioning และ Beacon VC จะพาไปหาคำตอบว่าเรื่องของ ESG กับสตาร์ทอัพนั้นเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร และประเด็นใดที่สตาร์ทอัพไทยควรจะรู้


ESG คืออะไร

ESG นั้นย่อมาจาก Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) เป็นแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว ถ้าหากธุรกิจยุคใหม่จะเติบโตก็ต้อง Do Good Do well ไปด้วยกัน เป็นโจทย์ที่ธุรกิจต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปอย่างยั่งยืนพร้อมกับยังคงความสามารถในการสร้างกำไรให้กับองค์กรตัวเองไปได้พร้อมกัน

การคำนึงถึง ESG ในการทำธุรกิจ เป็นการชวนให้ทุกคนกลับมาทบทวนการดำเนินงานตลอดทั้ง Supply Chain ของตนเองว่ามีผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในส่วนใดบ้าง เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนกับบริษัทที่ส่งผลกระทบต่อเรื่อง ESG กล่าวคือแม้บริษัทจะมีกำไรสูง แต่หากมีกิจกรรมที่ส่งผลกระทบกับกติกาที่โลกกำลังให้ความสำคัญอย่าง ESG ก็จะถูกมองในแง่ลบและอาจไม่มีใครอยากลงทุนด้วย


เมื่อนักลงทุนสนใจ ESG มากขึ้น สตาร์ทอัพเองก็ต้องปรับตัว

สตาร์ทอัพที่กำลังมองหาการลงทุนจากเหล่านักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการนำ ESG มาปรับใช้กับนโยบายและการดำเนินงานของตน แม้ว่าการกระทำดังกล่าวอาจดูเหมือนเป็นการเพิ่มภาระให้กับธุรกิจของตัวเอง แต่หากมองในระยะยาว จะเห็นว่าการเริ่มปรับตัวให้เข้ากับหลักเกณฑ์ด้าน ESG ตั้งแต่ตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่สตาร์ทอัพควรทำเป็นอย่างมาก เนื่องจากกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะถูกบังคับใช้และมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในอนาคต

จากข้อมูลของ EY ในปี 2565 ที่ผ่านมานั้น ได้แสดงว่า มีนักลงทุนถึง 26% เลือกที่จะไม่ลงทุนกับธุรกิจที่ไม่สามารถให้ความชัดเจนในนโยบายด้าน ESG นอกจากนั้นยังพบว่า 56% ของ Hedge Funds และ Private Equity และ 20% ของ Venture Capital ได้นำเกณฑ์ ESG มาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญในการพิจารณาลงทุน

เรื่องของสิ่งแวดล้อม หนึ่งในประเด็นของ ESG ที่กำลังถูกจับตามองอย่างมาก – ภาพจาก Unsplash


โอกาสที่จะได้ ถ้าสตาร์ทอัพหันมาสนใจเรื่อง ESG  

จากงานวิจัยของ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก พบว่าบริษัทที่นำแนวคิดด้าน ESG มาประกอบในการดำเนินธุรกิจนั้น จะเพิ่มความสามารถให้บริษัทนั้นเปิดตลาดใหม่ๆ ในทวีปยุโรปที่กำลังมองหา Sustainability Index จากบริษัทที่จะเข้าไปทำตลาดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจหากเลือกที่จะใส่ใจเรื่อง ESG ก่อนคนอื่น นอกจากนั้นการให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG จะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตและแข่งขันได้ในระยะยาว มากกว่าการแสวงหากำไรระยะสั้นที่ไม่ยั่งยืน และแน่นอนที่สุดคือจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น รวมถึงยังช่วยป้องกันการโดนลงโทษจากกฎหมายตามมาตรฐานของประเทศต่างๆ ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ดังนั้นในฐานะคนทำธุรกิจไม่เว้นแม้แต่สตาร์ทอัพเองก็ควรจะต้องให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ไม่เพียงเท่านี้ คนรุ่นใหม่ยังให้ความสนใจกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นรวมถึงมองหาโอกาสในการ ทำงานกับองค์กรที่แสดงให้เห็นได้ว่าไม่ได้มุ่งแสวงหากำไรเพียงอย่างเดียว ดังนั้นบริษัทที่ทำเรื่อง ESG ได้ดี ก็จะมีโอกาสที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานกับองค์กรได้มากขึ้น พนักงานในองค์กรเองก็จะภูมิใจที่องค์กรจัดการกับประเด็นเหล่านี้ได้ดี

คุณธนพงษ์ ณ ระนอง Managing Director จาก Beacon VC เจ้าของโครงการ KATALYST By KBank ได้กล่าวในงานสัมมนา ESG A Lasting Game Changer ว่าเรื่องของ ESG เป็นสิ่งที่กำลังมาและมีความสำคัญจริง ๆที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงเรื่องของเทรนด์ใหม่ๆ บางครั้งคนอาจจะกลัวว่าเป็นแค่ Buzz Words คือเรื่องที่มีการพูดถึงมากๆ แต่มาไม่นานแล้วก็หายไป คนกลัวว่าESG จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่จากที่ได้ไปงานสัมนาด้าน ESG ต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศถ้าเราเข้าไปดูในฝั่งนักลงทุน จะเห็นว่านักลงทุนที่มาในงาน ESG จะเป็นนักลงทุนจากสถาบันที่มีการก่อตั้งมานานแล้วและมีความที่จริงจังในการลงทุนมาก เชื่อได้ว่าเรื่อง ESGจะเป็นการลงทุนที่เป็น Long Term Investment มากๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่อง ESG ยังเป็นเรื่องใหม่มากๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย

ดังนั้น กฎ ระเบียบต่างๆ และด้านตลาดยังมีความไม่ชัดเจนอยู่มากๆ ถ้าเรายังไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดดีพอ เราจะเข้าไปจับโอกาสนั้นได้ยาก

คุณธนพงษ์ ณ ระนอง – กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC)


สตาร์ทอัพจะปรับตัวกับ ESG ได้อย่างไร  

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาคธุรกิจจะมีทางเลือกในการดำเนินการเพื่อรับมือต่อประเด็นความยั่งยืนที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายใน อาทิ ความพร้อมของกิจการทั้งความรู้ความเข้าใจ สภาพคล่องและเงินลงทุน เป็นต้น และปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ฐานลูกค้า มาตรการของคู่ค้าและทางการ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งแต่ละธุรกิจคงต้องชั่งน้ำหนักถึงผลบวกและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากบริบทแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งผลที่จะตามมาจากการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการต่อผลการดำเนินการในช่วงเวลาต่างๆ ว่าคุ้มค่าหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมองว่า ธุรกิจหรือสตาร์ทอัพอาจเริ่มต้นจากการลดส่วนสูญเสียในกระบวนการผลิต แยกขยะและนำวัสดุอุปกรณ์เหลือทิ้งมาใช้ซ้ำ หรือ รีไซเคิล วางแผนก่อนการใช้สิ่งต่างๆ เลือกใช้วัสดุ หรือวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการประหยัดไฟฟ้าและน้ำ การใช้ไฟฟ้าช่วง Off-Peak ที่มีค่าไฟต่อหน่วยต่ำ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน การออกแบบเส้นทางการใช้รถยนต์ การเปลี่ยนรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า การลดการขนส่งเที่ยวเปล่า การใช้โซลูชั่นหรือเทคโนโลยีเพื่อลดความสิ้นเปลือง เป็นต้น แนวทางเหล่านี้ธุรกิจอย่างสตาร์ทอัพหรือแม้แต่ธุรกิจทั่วไปก็น่าจะทยอยปรับเปลี่ยนเมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง และยังมีเคล็ดลับจากงาน ESG A Lasting Game Changer ได้แนะนำให้สตาร์ทอัพเริ่มจากศึกษาเรื่อง ESG และดูว่าคนที่อยู่ใน Ecosystem นี้ทำอะไรอยู่บ้าง เราสามารถที่จะเรียนรู้สิ่งดีๆ เพื่อเป็นแนวทางและนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองก่อน

ถ้ามองภาพรวมใหญ่ของบริษัท เรื่อง ESG มีการทำในบริษัทอยู่แล้ว แต่บางเรื่องอาจจะยังไม่นึกมาก่อนว่านี่ก็คือการทำ ESG เช่น การดูแลพนักงานดีหรือไม่ การดูแลสวัสดิการต่างๆ เป็นอย่างไร นี่คือสิ่งเล็กๆ ง่ายๆ ที่อาจจะยังไม่เคยมอง ให้เลือกทำในสิ่งที่อยากทำ และโดดเด่นจากคนอื่นไม่ว่าจะเป็นด้านไหนของ ESG โดยอยากเน้นย้ำว่าถึงแม้ในปัจจุบันตลาดโดยรวมอาจจะให้ความสำคัญหลักไปที่ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือตัว E แต่ในเรื่องของ S หรือการปฏิบัติต่อพนักงานและสังคมรอบข้าง และเรื่องของ G หรือความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลเพื่อธรรมภิบาลที่ดี ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนมองหาและมีสำคัญไม่แพ้กัน

งานสัมมนา ESG A Lasting Game Changer โดย Beacon VC


Beacon VC มีส่วนช่วยเหลือธุรกิจสตาร์ทอัพในด้าน ESG ได้อย่างไร

ปัจจุบัน Beacon VC ส่งเสริมให้สตาร์ทอัพปรับตัวและมองหาโอกาสจากเทรนด์ด้าน ESG โดยส่งมอบการสนับสนุนในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การให้ความรู้เรื่อง ESG ผ่านการจัดงานสัมมนาและหลักสูตรอบรมเข้มข้นประจำปี KATALYST Startup Launchpad 2023 การร่วมมือกับพันธมิตรจัดตั้ง Climate Tech Club เป็นต้น และการจัดอบรมร่วมกับ Wavemaker Impact เพื่อให้ความรู้กับกลุ่มสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับ Climate Tech เป็นต้น

รวมถึงการสนับสนุนเงินลงทุนผ่านกองทุน Beacon Impact Fund ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น ราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการลงทุน 3 ปี โดยมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่แสวงหาผลกำไร ที่มีแนวคิดดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่างๆ ของ ESG สามารถวัดผลได้ พร้อมศักยภาพที่จะขยายผลไปในวงกว้าง โดยกองทุน Beacon Impact Fund มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วงที่บริษัทสามารถสร้างรายได้แล้ว มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน และสามารถเติบโตได้ดี

พอร์ตการลงทุนของ Beacon VC – ภาพจาก Beacon VC

ซึ่งพอร์ตการลงทุนของ Beacon Impact Fund นั้นมีบริษัทที่ลงทุนอยู่ เช่น Algbra ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงินเพื่อให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศอังกฤษสามารถเข้าถึงบริการทา งการเงินที่สอดคล้องกับหลักทางศาสนาได้ Wavemaker Impact ธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่มีเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก หรือแม้แต่ กองทุน Siam Capital ซึ่งเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นที่จะช่วยเป็นส่วนนึงในการทำให้การบริโภคอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ หลากหลายแขนง อาทิ วัสดุที่ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม ระบบการซื้อขายที่ลดการปล่อยคาร์บอน เป็นต้น

คุณธนพงษ์ยังได้กล่าวว่า Beacon VC หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงผลักดันและให้การสนับสนุนผู้คิดค้นนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่มีปณิธานในการแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ที่พวกเราทุกคนและโลกใบนี้กำลังเผชิญ ตามเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทยที่มีความมุ่งมั่นจะยกระดับการดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปูทางให้สังคมไทยและโลกใบนี้มุ่งสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงไปด้วยกัน