Baidu เปิดตัว ERNIE 4.0 แชทบอท AI ตัวใหม่ ชูความสามารถสูสีกับ GPT-4 ของ OpenAI

Robin Li - ภาพจาก Baidu
Baidu บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอีกราย ได้ประกาศเปิดตัว ERNIE 4.0 แชทบอทที่ใช้เทคโนโลยี AI โดยบริษัทได้เปรียบเทียบความสามารถของระบบดังกล่าวว่าสูสีกับ ChatGPT ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวล่าสุดสามารถแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน หรือแม้แต่สร้างโครงเรื่องสำหรับนวนิยายศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เริ่มต้นได้

Robin Li ซึ่งเป็น CEO และผู้ก่อตั้งของ Baidu ได้เปิดตัวเทคโนโลยีแชทบอท AI ใหม่ ในงาน Baidu World 2023 ว่า ERNIE 4.0 แชทบอทตัวใหม่นั้นไม่ได้ด้อยกว่า GPT-4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ OpenAI ในทุกด้าน โดยแชทบอทตัวใหม่นี้ได้รับการอัปเกรดอย่างเต็มรูปแบบในด้านความเข้าใจ การสร้างสิ่งต่างๆ เหตุผล และความจำ

นอกจากนี้ CEO ของ Baidu ยังกล่าวเสริมว่า ในอดีต คนมักจะพูดว่าแชทบอทยังฉลาดไม่พอ แต่ในวันนี้มันสามารถที่จะเข้าใจเกือบทุกอย่างที่คุณพูด และในหลายกรณีมันเข้าใจสิ่งที่คุณพูดได้ดีกว่าเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานของคุณด้วยซ้ำ

แชทบอท AI ของ Baidu ตัวใหม่นี้สามารถสร้างโฆษณาสำหรับรถยนต์ได้ภายในไม่กี่นาที แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน และสร้างโครงเรื่องสำหรับนวนิยายศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ดีแชทบอทดังกล่าวทำงานเป็นภาษาจีนซึ่งเป็นภาษาหลัก แต่ก็สามารถจัดการกับคำถามและสร้างคำตอบเป็นภาษาอังกฤษได้

ก่อนหน้านี้ในบริษัทได้มีข่าวถึงการสร้าง ERNIE ในช่วงเดือนมกราคม ก่อนที่จะประกาศเปิดตัวต่อสาธารณะชนอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม โดยแชทบอทดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 45 ล้านคน

สำหรับแชทบอท ERNIE 4.0 บริษัทยังไม่ได้กล่าวว่าจะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในช่วงใด แต่ในงาน Baidu World ทางหัวเรือใหญ่ของ Baidu ได้เชิญผู้ใช้งานบางส่วนให้เข้ามาร่วมทดสอบได้

Charlie Dai รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเทคโนโลยีของ Forrester ได้กล่าวกับ CNN ว่า Baidu เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายแรกมในประเทศจีน ที่อ้างว่าแชทบอทที่ใช้เทคโนโลยี AI สามารถทำงานได้ดีเท่ากับ GPT-4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ OpenAI

อย่างไรก็ดี Charlie ได้กล่าวว่า ประสิทธิภาพของ ERNIE นั้นยังต้องการหลักฐานการเปรียบเทียบเพิ่มเติมกับแชทบอทของ OpenAI เพื่อพิสูจน์ว่าแชทบอทดังกล่าวทำงานได้ดีเท่ากันจริงๆ แต่เขาก็ยังมองโลกในแง่ดีว่านี่คือช่วงเวลาของเทคโนโลยีของ AI จากฝั่งประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนในระยะยาว

ข้อมูลล่าสุดจากบทวิเคราะห์ของ CLSA จีนมีเทคโนโลยี AI ที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) อย่างน้อย 130 โมเดล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของทั้งหมดทั่วโลก ตามหลังสหรัฐอเมริกาที่ครองส่วนแบ่งมากถึง 50% อยู่ในขณะนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันของเทคโนโลยีดังกล่าวของ 2 มหาอำนาจในขณะนี้

ที่มา – CNN, Reuters