หลังจากที่สร้างฮือฮาด้วยการเปิดตัว “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” (KTC DIGITAL CREDIT CARD) หรือเรียกง่ายๆ กันว่าบัตรโปร่งใส ซึ่งเป็นการโชว์เคสบัตรเป็นครั้งแรกในงาน BOT Digital Finance Conference เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชูนวัตกรรมเรื่องความปลอดภัย แต่ชาวเน็ตชอบใจในดีไซน์ความมินิมัลแบบขั้นสุด โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567
KTC DIGITAL CREDIT CARD วางจุดยืนเป็นบัตรเครดิตอัจฉริยะ ที่มีจุดเด่น 3 อย่าง ปลอดภัย สบายใจ และรวดเร็ว มาพร้อมกับดีไซน์โปร่งใส โปร่งแสง (Translucent) มีเพียงโลโก้แบรนด์ของเครือข่ายกับ KTC ในฐานะผู้ออกบัตร กับชื่อของผู้ถือบัตรเท่านั้น
ไม่มีเลขบัตร (Numberless Card) มี Dynamic CVV/CVC2 เลขหลังบัตรจะเปลี่ยนทุกครั้งที่ขอ (คล้ายๆ การขอ OTP) ควบคุมการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile สแกนจ่ายด้วย QR Pay และผูกบัตรกับระบบชำระบนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กูเกิล เพย์ (Google Pay) สวอทช์ เพย์ (Swatch Pay)
ผู้ถือบัตรสามารถทำรายการขอบัตรพลาสติกได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile หลังจากมีการเปิดบัตรอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ หรือใครไม่อยากใช้บัตรพลาสติกก็สามารถใช้เป็นบัตรดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน เป็นการช่วยลดขยะพลาสติกได้ด้วย
Positioning มีโอกาสได้พูดคุยกับ “ประณยา นิถานานนท์” ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กับไอเดียเบื้องหลังของบัตรนี้ แนวคิดหลักเป็นเรื่องของความปลอดภัย รวมไปถึงอยากจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย โดยใช้เวลาทดลองอยู่หลายเดือน ก่อนที่จะเปิดโชว์เคสภายในงาน BOT Digital Finance Conference
“บัตรดิจิทัลการ์ด ถือว่าเป็นการคิดค้นสินค้าใหม่ๆ เกิดจากไอเดียที่ว่าลูกค้ามี Pain Point อะไร และทาง KTC จะตอบโจทย์อะไรได้บ้าง จากอินไซต์ก็พบว่าลูกค้าคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอย่างแรก มีความกังวลในการใช้บัตรเครดิตในช่องทางออนไลน์ เพราะตอนนี้ยอดการใช้จ่ายออนไลน์เติบโตขึ้นมาก มีสัดส่วนราวๆ 50% ลูกค้าจะกังวลเวลาใส่ข้อมูลในเว็บไซต์”
บัตรนี้เลยมีคีย์หลักที่ Dynamic CVV/CVC2 ขอรหัสใหม่ทุกครั้ง และไม่มีเลขบัตร ป้องกันการขโมยข้อมูล
ประณยาเสริมต่ออีกว่า หลังจากเปิดโชว์เคสในงาน คนก็สนใจกันมาก คอนเซ็ปต์หลักคือต้องดีไซน์สวย ปลอดภัย และสะดวก ต้องการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย เขาจะชอบดีไซน์มินิมัลแบบนี้กัน โมเดลนี้เราอาจจะได้เห็นจาก Apple Card ในต่างประเทศ แต่ในไทยยังไม่มีใครทำ
ในสิ้นปีนี้จะเริ่มเปิดให้ขอบัตรดิจิทัลการ์ดได้ในแอปพลิเคชัน มีการตั้งเป้าว่ามีลูกค้าใช้ 50,000 ใบในปีหน้า ลูกค้าเก่า หรือลูกค้าใหม่ก็สามารถขอได้ ใช้ควบคู่กับบัตรปกติก็ได้
นอกจากการเปิดตัวนวัตกรรมบัตรดิจิทัลการ์ดแล้ว กลยุทธ์ของกลุ่มบัตรเครดิต KTC ในปีนี้ยังเน้นที่ลูกค้าระดับบนมากขึ้น หรือกลุ่มที่มีรายได้ 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป ซึ่ง KTC ได้พยายามจับกลุ่มนี้มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ประณยาบอกว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ทำให้ยอดการใช้จ่ายโดยรวมเติบโตได้ดี มีการเติบโตถึง 20% เป็นลูกค้ามีคุณภาพ หนี้เสียน้อย ใช้จ่ายเยอะมากกว่าลูกค้าปกติ 2-3 เท่า ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีสัดส่วนน้อยราวๆ 17-18% แต่เติบโตสูง
ปัจจุบันลูกค้าของ KTC มีการใช้จ่ายใน 3 หมวดหลักสูงที่สุด ได้แก่ ประกัน, น้ำมัน และท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มท่องเที่ยวมีการเติบโตถึง 80% การใช้จ่ายรวมการซื้อตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และแพลตฟอร์ม OTA ส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้งานท่องเที่ยวในประเทศ 90% เที่ยวต่างประเทศ 10%