กองทัพสหรัฐอเมริกาในญี่ปุ่น ได้ประกาศซื้ออาหารทะเลจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยเหลือ โดยเริ่มต้นที่หอยเชลล์จำนวน 1 ตัน และส่งสัญญาณว่าจะมีการซื้อเพิ่มมากกว่านี้ นอกจากนี้ทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่นยังกล่าวว่าอาจหามาตรการตอบโต้กรณีที่จีนแบนนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นด้วย
Reuters และ BBC ได้รายงานข่าวว่า กองทัพสหรัฐอเมริกาที่ประจำการในประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มซื้ออาหารทะเลจำนวนมาก เพื่อที่จะชดเชยหลังจากที่จีนได้สั่งแบนการนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่น เพื่อประท้วงกรณีการปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ และส่งสัญญาณว่าจะมีการซื้อสินค้าประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้นหลังจากนี้
อาหารทะเลที่กองทัพสหรัฐจะซื้อเป็นการเริ่มต้นคือ หอยเชลล์เป็นจำนวน 1 ตัน เพื่อนำไปเลี้ยงทหารทั้งในฐานทัพและบนกองเรือรบ รวมถึงร้านค้าในฐานทัพ และจะมีการนำเข้าอาหารทะเลเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังเตรียมที่จะเจรจาในการส่งออกหอยเชลล์เข้าไปแปรรูปในสหรัฐอเมริกาด้วย
ญี่ปุ่นได้ส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวนี้ไปยังจีนหรือแม้แต่ฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้ง 2 แหล่งดังกล่าวเป็นปลายทางส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่น หอยเชลล์ ในปีที่ผ่านมาจีนได้นำเข้ามากถึง 100,000 ตัน
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรมศุลกากรของจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหาร จากการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคชาวจีน ทำให้จีนระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม เป็นต้นไป
ผลที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเตรียมเงินหลักแสนล้านเยนเพื่อช่วยเหลือชาวประมงที่ได้ผลกระทบจากผลดังกล่าว ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีทั้งการพัฒนาให้ชาวประมงหาตลาดอาหารทะเลในประเทศอื่น และเก็บปลาส่วนเกินแช่แข็งจนกว่าจะขายได้เมื่อมีความต้องการฟื้นตัว
Rahm Emanuel เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ อาจพิจารณานำเข้าปลาจากญี่ปุ่นและจีนด้วย โดยก่อนหน้านี้ กองทัพสหรัฐฯ ไม่เคยซื้ออาหารทะเลที่จับได้ในทะเลญี่ปุ่นด้วยซ้ำ
นอกจากนี้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาหาวิธีตอบโต้ที่จีนได้สั่งแบนการนำเข้าอาหารทะเล โดยมองว่ามาตรการดังกล่าวของจีนนั้นถือว่าเป็นสงครามทางเศรษฐกิจ