รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวประมง มูลค่านับแสนล้านเยน หลังจีนประกาศแบนอาหารทะเล

ภาพจาก Unsplash
รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งกองทุนช่วยเหลือเหลือชาวประมง หลังจีนประกาศแบนอาหารทะเล ตอบโต้กรณีญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะซึ่งมีกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อน โดยงบดังกล่าวมีมูลค่ามากถึง 1 แสนล้านเยนแล้ว และสามารถขยายกองทุนเพิ่มเติมได้

รัฐบาลญี่ปุ่นได้เตรียมเงินเพื่อช่วยเหลือชาวประมงที่ได้ผลกระทบจากประเทศจีนได้ประกาศแบนอาหารทะเลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีออกมาเป็นระยะหลังจากปริมาณส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ

จีนได้แบนอาหารทะเลญี่ปุ่นตามหลังที่ Tepco ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ เริ่มปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวลงสู่ทะเลเป็นครั้งแรกถึง 1.3 ล้านตัน เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยกรมศุลกากรของจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหาร

อย่างไรก็ดีทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศยืนยันถึงความปลอดภัย รวมถึงสหประชาชาติเองก็ออกมาไฟเขียวในเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ดีประชาชนหลายประเทศรอบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้ กลับไม่เห็นด้วยกับวิธีการปล่อยน้ำเสียเท่าไหร่นัก

ในปี 2022 ที่ผ่านมา จีนเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น โดยอาหารทะเลหลายชนิดที่นำเข้าไปนอกจากจะบริโภคแล้ว จีนยังเป็นแหล่งแปรรูปอาหารทะเลรายใหญ่ก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศอื่น

เมื่อไม่มานานมานี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดตั้งกองทุนมูลค่ารวมถึง 80,000 ล้านเยนเพื่อช่วยพัฒนาให้ชาวประมงหาตลาดทะเลในประเทศอื่น และเก็บปลาส่วนเกินแช่แข็งจนกว่าจะขายได้เมื่อมีความต้องการฟื้นตัว หรือแม้แต่สนับสนุนในการแปรรูปอาหารทะเลโดยไม่ต้องพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่ง

ถ้าหากรวมกันกับงบช่วยเหลือล่าสุดแล้วจะทำให้งบประมาณที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือชาวประมงของญี่ปุ่นมีมากถึง 100,700 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยราวๆ 24,218 ล้านบาท หรือเกือบเท่ามูลค่าที่ประเทศจีนนำเข้าอาหารทะเลในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา และรัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมที่จะขยายเม็ดเงินกองทุนดังกล่าวด้วย

ก่อนหน้านี้สื่อญี่ปุ่นอย่าง Japan Times ได้รายงานข่าวว่าผู้แทนของสภาญี่ปุ่นบางรายได้ส่งสัญญาณให้รัฐบาลฟ้องร้ององค์การการค้าโลก (WTO)  ในกรณีการแบนอาหารทะเลจากญี่ปุ่นด้วย ถ้าหากใช้ช่องทางในการเจรจาทางการทูตแล้วไม่ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ดีรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงระมัดระวังท่าทีในการฟ้องร้องต่อ WTO และจะใช้วิถีทางการทูตแบบปกติ และต้องการให้จีนยกเลิกมาตรการแบนอาหารทะเล

ที่มา – Reuters, Asahi