รายงานล่าสุดชี้เศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนโตช้าลง คาดว่าปีนี้รายได้จากธุรกิจดิจิทัลแตะ 1 แสนล้านเหรียญได้

Google Temasek และ Bain & Company ได้ออกรายงาน e-Conomy SEA ซึ่งรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2023 นี้ โดยคาดว่ารายได้ของธุรกิจดิจิทัลจะแตะ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้

Google และกองทุนความมั่งคั่งของสิงคโปร์อย่าง Temasek รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจอย่าง Bain & Company ได้ออกรายงาน e-Conomy SEA ประจำปี 2023 โดยประเด็นที่น่าสนใจในปีนี้คือเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม

Positioning สรุปประเด็นที่น่าสนใจของรายงานดังกล่าวมาฝาก 

ในรายงานได้ชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตได้ดี แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจภายนอกจะมีความผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะเดียวกันในรายงานมองว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะกลับมาในไตรมาส 3

รายงานดังกล่าวชี้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลหลังปี 2025 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจะเติบโตได้ช้าลง หลังจากนี้ ในประเทศไทยเศรษฐกิจดิจิทัลในช่วงปี 2025-2030 เติบโตเฉลี่ยราวๆ 13% ต่อปี จากเดิมในช่วงปี 2023-2025 เติบโตได้มากถึง 17% ต่อปี

สำหรับรายได้จากเศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2023 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นแตะระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ในปีนี้ ซึ่งเติบโต 8 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2016 ที่ผ่านมา ขณะด้านบริการด้านการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล (ที่เป็นสีเทา) เองก็กำลังเติบโตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบริการลงทุน บริหารความมั่งคั่ง ประกัน ฯลฯ

ถ้าหากมาแยกเม็ดเงินของเศรษฐกิจดิจิทัล E-commerce ยังถือเป็นสัดส่วนมากที่สุดคือ หรือด้านอื่นอย่างด้านแพท่องเที่ยวถือว่าเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นการฟื้นตัวกลับมาจากการแพร่ระบาดของโควิด ขณะที่ด้าน Online Media เริ่มเติบตัวชะลอลง

สำหรับธุรกิจ E-commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายได้ยังถือว่าเติบโต โดยในปี 2023 เติบโตมากถึง 22% อย่างไรก็ดีในช่วงทีผ่านมาผู้เล่นหลายรายเองก็ต้องเลือกว่าจะต้องทำให้รายได้เติบโต หรือแม้แต่ต้องป้องกันไม่ให้คู่แข่งรายใหม่เข้ามา

รายงานยังได้ชี้ถึงการลงทุนของ VC ต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงจนสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น (ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง) ขณะเดียวกันนักลงทุนก็คาดหวังว่าเหล่าบริษัทสตาร์ทอัพจะสามารถกลับมาทำกำไรได้ และสามารถดำเนินธุรกิจในระยะยาวแบบยั่งยืนได้

โดยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีดีลการลงทุนเมื่อคิดมูลค่าเม็ดเงินแล้วที่น้อยสุด ในช่วงครึ่งปี 2023 นั้นมีการลงทุนแค่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

สำหรับประเทศไทยเศรษฐกิจดิจิทัล รายงานดังกล่าวคาดว่าจะโตจนมีขนาด 100,000 ถึง 165,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030 โดยขนาดใหญ่ที่สุดนั้นมาจาก E-Commerce รองลงมาคือ Online Travel และ Online Media

บริการเงินแบบดิจิทัลของไทยนั้นได้ผลดีจากการสนับสนุนของหน่วยงานกำกับดูแล โดยรายงานฉบับนี้คาดว่าภายในปี 2023-2025 จะทุกภาคส่วนจะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% โดยในรายงานดังกล่าวมองว่าส่วนของบริการบริหารความมั่งคั่งจะเติบโตมากที่สุด รองลงมาคือบริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล