แม้ว่ายอดขาย iPhone ของ Apple จะยังทำได้ดี โดยเฉพาะใน iPhone 15 รุ่นล่าสุด แต่ภาพรวมยอดขายของ Apple ลดลง 4 ไตรมาสติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม กำไรของบริษัทยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
รายได้ของ Apple ในไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท (ก.ค.-ก.ย.) ลดลงประมาณ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยมีรายรับรวม 8.95 หมื่นล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์ 6.71 หมื่นล้านดอลลาร์ และรายได้จากบริการ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% หรือ 1.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การลดลงของยอดขายในไตรมาส 4 นับเป็นการลดลง 4 ไตรมาสติด และถือเป็นถือเป็นครั้งแรกที่ Apple ประสบปัญหาดังกล่าว นับตั้งแต่เปิดตัว iPhone ในปี 2007 โดยกลุ่มที่รายได้ลดลงมากที่สุด คือ Mac มียอดขาย 7,614 ล้านดอลลาร์ ลดลง 34% และ iPad 6,443 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10% ส่วนกลุ่ม Wearables, Home, Accessories 9,322 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3%
แต่กลุ่มที่เติบโตก็คือ iPhone โดยยอดขายในไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3% เป็น 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำสถิติสูงสุดของบริษัท เช่นเดียวกับธุรกิจบริการที่เติบโต 16%
“เรายังคงเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน” Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าว
ทั้งนี้ Apple คาดว่า รายได้รวมของบริษัทในช่วงต.ค.-ธ.ค. (ไตรมาส 1 ประจำปีงบประมาณ 2024) จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หรือประมาณ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเติบโตประมาณ 5% พร้อมตั้งเป้าว่าการเปิดตัว ชิป M3 ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจะสามารถดึงดูดผู้ใช้ Mac และเพิ่มยอดขายได้อีกครั้ง
