ความดังของ “ณเดชน์” ในระดับเมกะซุป’ตาร์เวลานี้ เอ ศุภชัยบอกว่า เป็นอุบัติเหตุแต่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ และไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดได้บ่อย หรืออาจไม่เกิดขึ้นอีกในรอบอีกหลายปีข้างหน้า พูดง่ายๆ ไม่ใช่ใครที่จะทำได้อย่างณเดชน์
ในสายตาของเอ ความดังในระดับซูเปอร์สตตาร์ ของ “ณเดชน์” นอกจากความโดดเด่นเรื่องหน้าตา ยังมาจากพื้นฐานการเป็นคนที่มีต้นทุนสูง เป็นลูกบุญธรรมในครอบครัวที่พ่อบุญธรรมเป็นคนญี่ปุ่น แม่เป็นคนไทย ณเดชน์เป็นคนหลายวัฒนธรรม ได้ความมีระเบียบ และความเป็นนักธุรกิจจากพ่อชาวญี่ปุ่น และความเป็นครอบครัวจากแม่
“เมื่อเขาทำหน้าที่ลูกบุญธรรมสำหรับคนที่ไม่ใช่พ่อแม่มาแล้ว ดังนั้นการที่เขาจะทำให้คนทั้งประเทศไทยรักเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับณเดชน์ ใครเห็นก็เอ็นดู”
ความเป็นที่ชื่นชอบของแมส มาจากพื้นเพความเป็นคนต่างจังหวัด เป็นลูกอีสาน พูดภาษาท้องถิ่นได้คล่องปรื๋อ เมื่อมาผสมผสานกับบุคลิกที่ถูกปั้นใหม่ เลยเป็นส่วนผสมที่ลงตัว สวมบทบาทได้ทั้งหนุ่มอีสานและไฮโซมาดเท่ในเวลาเดียวกัน ทำให้ณเดชน์ได้แฟนคลับที่ชื่นชอบหลายกลุ่ม
“ไม่ใช่ใครก็เป็นได้ ทั้งนายแบบที่เหมือนหลุดมาจากโว้คหรือแคตวอล์ก แต่สามารถเอาผ้าขาวม้าคาดพุงแล้วคนก็เชื่อ นี่แหละคือโจทย์ยากที่ณเดชน์ตอบได้”
เอมองว่า ความดังในระดับเมกะซุป’ตาร์ของณเดชน์กำลัง “สุกงอม” เต็มที่ สิ่งที่นักปั้นอย่างเขาต้องทำคือ การหา “เนื้องาน” ใหม่ๆ เข้ามาป้อน ทำให้เขากำลังมองไกลไปถึงต่างประเทศ
“ณเดชน์ยังไม่ได้ถึงจุดอิ่มตัว เราจะมีเนื้องานใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ น้องเขาร้องได้ เต้นได้ อยากไปดูดเงินต่างชาติบ้าง เคยคุยกับประวิทย์ (มาลีนนท์) ไปจีนกันมั้ย เอาให้เต็มเหนี่ยวเลย ก็ทำให้เต็มเหนี่ยว แต่ก็เข้าใจว่าน้องเขายังติดละคร แต่ไหนแล้วตีเหล็กต้องตีตอนร้อน” เอ บอกเป้าหมาย