ปีทองของแท้! ตลาดหุ้น ‘​​อินเดีย’ มูลค่าทะลุ 3.98 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นอันดับ 7 ของโลกแซงหน้า ‘ฮ่องกง’

อินเดีย COVID-19
(Photo by Yawar Nazir/Getty Images)
ถือเป็นปีทองของ อินเดีย จริง ๆ หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตและแบรนด์ไอทีต่างก็ย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากจีนมาอินเดีย อาทิ Apple ซึ่งด้วยการเข้ามาลงทุนจากแบรนด์ไอทียักษ์ใหญ่ ก็ทำให้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน ตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติของอินเดียมีมูลค่า 3.989 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้า ฮ่องกง เรียบร้อย

มูลค่าตลาดหุ้นของ อินเดีย แซงหน้า ฮ่องกง จนกลายเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็น อันดับ 7 ของโลก โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติของอินเดียอยู่ที่ 3.989 ล้านล้านดอลลาร์ เทียบกับฮ่องกงอยู่ที่ 3.984 ล้านล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากสหพันธ์การแลกเปลี่ยนโลก

โดยดัชนี Nifty 50 ของอินเดียพุ่งสู่ถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยรวมทั้งปี ดัชนี Nifty 50 พุ่งขึ้นเกือบ +16% ในปีนี้และกําลังมุ่งหน้าเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ในทางตรงกันข้ามดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงร่วงลง -17% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทําให้เป็นตลาดหลักในเอเชีย-แปซิฟิกที่มีผลการดําเนินงานแย่ที่สุด

อินเดียถือเป็นตลาดที่โดดเด่นในปีนี้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยขนาดจำนวนประชากรถึง 1.4 พันล้านคน สูงสุดในโลก อีกทั้งยังมีขนาดการเติบโตเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งสะท้อนได้จากการใช้จ่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ และสินค้าไฮเอนด์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สามารถดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศได้มากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียก็มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ในปีนี้ตลาดหุ้นอินเดียมีผลงานโดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

สวนทางกับทางดัชนีหุ้นฮ่องกงที่มีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจจีนสูง ทำให้วิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์จากจีนส่งผลต่อตลาดหุ้นฮ่องกง อีกทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ จึงเป็นผลทำให้ดัชนี Hang Seng มีผลดำเนินการแย่ที่สุดในเอเขียแปซิฟิก

จากการประเมินของ HSBC มองว่า ภาคการธนาคาร, การดูแลสุขภาพ, และพลังงาน จะเป็นภาคส่วนที่ดีที่สุดของอินเดียในปีหน้า ขณะที่ภาคส่วนต่าง ๆ เช่น รถยนต์, ค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์ และโทรคมนาคมก็อยู่ในตําแหน่งที่ค่อนข้างดีในปีหน้าเช่นกัน 

Source