Positioning สรุปประเด็นสำคัญจากบทวิเคราะห์จากยูบีเอส (UBS) ที่ได้ออกบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารในอาเซียนในปี 2024 โดยมองว่ากลุ่มธนาคารไทยยังคงเผชิญความท้าทาย นอกจากนี้ยังกังวลงคุณภาพสินทรัพย์ และความเสี่ยงเศรษฐกิจ
UBS ได้ออกบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารในอาเซียนเมื่อเย็นวานนี้ (3 มกราคม) โดยได้วิเคราะห์ว่ากลุ่มธนาคารไทยนั้นจะมีกำไรในปี 2024 เติบโต 3% เท่านั้น เป็นรองบ๊วยในอาเซียน นอกจากนี้ยังกังวลในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ ต้นทุนของส่วนของผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ดีคาดว่าปันผลที่สูง จะช่วยไม่ให้ราคาหุ้นลดลงได้
ในบทวิเคราะห์ได้กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2024 นี้ UBS คาดว่าจะเติบโต 3.4% ได้ปัจจัยหลักจากการลงทุน รวมถึงการเบิกจ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเช่น นักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า หรือแม้แต่ปัจจัยหนี้ครัวเรือนของไทย
ปัจจัยที่ต้องจับตามองของกลุ่มแบงก์ไทยในปี 2024
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถึงจุดสูงสุดหรือยัง ในรายงานของ UBS คาดการณ์ว่า Cycle อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังตามหลัง Cycle อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารไทยจะไม่สามารถเอาชนะผลตอบแทนของดัชนีหุ้นไทยอย่าง SET Index ไปได้
- มาตรการของแบงก์ชาติที่หมดลง กับ มาตรการของรัฐบาล UBS กล่าวถึงมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดนั้นได้สิ้นสุดลงในปี 2023 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังมีมาตรการที่ให้ลูกหนี้บัตรเครดิตจ่ายเงินขั้นต่ำเพิ่ม อาจทำให้ NPL นั้นเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่คาดว่าจะออกมาได้ แต่กลุ่มธนาคารไทยยังสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
- อัตราการปันผลของกลุ่มแบงก์ไทย นอกจากนี้ UBS ยังมองว่าธนาคารไทยบางแห่งเองอาจเพิ่มการปันผลมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ดึงดูดนักลงทุน เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรที่เริ่มลดลงมา
ตัวเลขคาดการณ์ที่น่าสนใจของกลุ่มธนาคารไทย
- การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ (Loan Growth) คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6%
- รายได้รวมของกลุ่มธนาคารไทยคาดว่าจะเติบโต 3.2%
- ต้นทุนความเสี่ยงของสินเชื่อที่ไม่ได้รับการชำระคืนเงินต้น (Credit Cost) คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6% (160 bps)
- NPL อยู่ราวๆ 3.6%
อย่างไรก็ดี UBS แสดงความกังวลด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังคงอยู่ของกลุ่มธนาคารไทย โดยเฉพาะเมื่อโครงการปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุดลงหลังจากนี้ ความเสี่ยงในเรื่องเศรษฐกิจมหภาค หรือแม้แต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังมีความไม่แน่นอน รวมถึงทำให้ต้นทุนทางการเงินของกลุ่มธนาคารไทยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ ในปี 2024 บทวิเคราะห์ของ UBS มองว่ากลุ่มธนาคารไทยถือว่าไม่น่าสนใจถ้าหากเทียบตัวเลขกับกลุ่มธนาคารอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่ในสิงคโปร์