- “Themed Festival” คือจุดแข็งในการจัดอีเวนต์ของ “MQDC Brite” ไม่ว่าจะเป็นงานธีมฮาโลวีน คริสต์มาส สงกรานต์ ฯลฯ ล้วนได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม
- Positioning มีโอกาสได้คุยกับ “ปอย – โสภิดา ศรีสกุล” แม่ทัพอีเวนต์และนิทรรศการของ MQDC Brite เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จ และการต่อยอดจากการเป็นออร์แกไนเซอร์ภายในเครือสู่การรับงานลูกค้าภายนอกในปีนี้
งานอีเวนต์โครงการในเครือ MQDC มีหลายงานที่โดดเด่นเป็น ‘Talk of the Town’ และเป็นภาพจำมาตลอด 7 ปีที่ก่อตั้งบริษัท เช่น งานเปิดตัว “Magnolias Waterfront Residences และ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok” ซึ่งเป็นการ Launch แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ระดับ Super Luxury และ Branded Residence ครั้งแรกของ MQDC ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมฉลองไปพร้อมกับการเปิดตัวของ ICONSIAM ซึ่งเป็น destination ระดับโลก ในงาน “ICONSIAM Grand Opening Event” , งานอีเวนต์ “The Forestias Story & Beyond” โชว์ความคิดสร้างสรรค์ในการผสานรูปแบบละครเวทีเข้ากับเทคโนโลยี หรืองานอีเวนต์ธีมตามเทศกาลที่จัดใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ กลายเป็นงานที่ลูกบ้านรอคอยและมีคนลงทะเบียนเข้าร่วมงานจนเต็มโควตาเสมอ และที่เรียกเสียงฮือฮาได้สุดจากผู้ร่วมงานนี้ คือการสร้างสรรค์งาน โดยนำโชว์ผสานกับเทคโนโลยีโลกเสมือนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์สองโลกเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อเป็นครั้งแรก
อีเวนต์ทั้งหมดที่กล่าวมามีเบื้องหลังการจัดงานเป็นออร์แกไนเซอร์ภายใน คือ บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ “MQDC Brite Corporation” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2560
รวมภาพบรรยากาศงาน ICONSIAM Grand Opening Event
จุดประสงค์ของบริษัทเพื่อมาทำงานออร์แกไนเซอร์ โดยเริ่มแรกรับจัดเฉพาะงานอีเวนต์ให้กับเครือ DTGO และเครืออสังหาริมทรัพย์ MQDC ทั้งหมด
“เหตุที่มีการตั้งบริษัทออร์แกไนเซอร์ขึ้นมาเพราะ DTGO และ MQDC เป็นบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งกับผู้อาศัย ชุมชนและโลกของเรา ดังนั้น การสร้างอีเวนต์แต่ละงาน จึงต้องมีความเข้าใจแนวคิดหลักของโครงการ เชื่อมโยงรายละเอียดต่างๆ แล้วนำเสนอออกมาเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ มีความเป็นเอกลักษณ์ที่พบได้เฉพาะที่นี่ และต้องทำให้ผู้มาร่วมงานเข้าถึง ‘หัวใจ’ ของโครงการนั้นๆ ได้อีกด้วย” ปอย – โสภิดา ศรีสกุล Managing Director – Event & Exhibition Business ของ MQDC Brite Corporation กล่าว
“เราจึงต้องมีหน่วยงานที่มีความเข้าใจในวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมองค์กร ทั้งแนวคิดของแบรนด์ และความต้องการของลูกค้า สามารถลงรายละเอียดเชิงลึกในการสร้างประสบการณ์ผ่านการจัดงานอีเวนต์หรือกิจกรรมที่มีความหมายในทุกมิติ สามารถสร้างสรรค์งานที่มีความต่อเนื่อง ไม่ใช่ one-off เพื่อเน้นย้ำคุณค่าของแบรนด์ โดยให้ความสำคัญกับเรื่องของ Storytelling ที่จะมีความต่อเนื่องกัน เป็นเส้นเรื่องเดียวกัน ที่สำคัญคือการสร้างความสุข ความทรงจำดีๆ ให้กับทุกคนที่มาร่วมงาน และกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม”
ปอย – โสภิดา ศรีสกุล Managing Director – Event & Exhibition Business, MQDC Brite Corporation
ถึงแม้จะเป็น in-house แต่บริษัทมีการรวบรวมทีมงานระดับแถวหน้าของไทยและมาจากความเชี่ยวชาญหลากหลายด้านมาทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านอีเวนต์ ออร์แกไนเซอร์, เอเจนซี หรือโปรโมเตอร์งานคอนเสิร์ตและกีฬา รวมแล้วมีบุคลากรเกือบ 100 คนที่สามารถจัดงานอีเวนต์ได้ตอบโจทย์ทุกรูปแบบความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นงานอีเวนต์หลากประเภท หรือการต่อยอดงานบริการสนับสนุนที่สร้างเสริมประสบการณ์ลูกค้าในมิติต่าง ๆ
รวมถึงแม่ทัพใหญ่ด้านอีเวนต์อย่าง “ปอย – โสภิดา” เองก็เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการอีเวนต์มานานเกือบ 20 ปี ผ่านงานที่สร้างชื่อเสียง เช่น การเป็นหนึ่งในทีมงานสร้างสรรค์ริเริ่มการจัด “Bangkok Design Week” งานประจำปีที่เปิดพื้นที่แสดงงานสำหรับนักออกแบบ คนศิลปะ นักสร้างสรรค์ผลงาน ที่สร้างภาพจำอย่างกว้างขวางและฮิตติดลมบนจนสามารถขยายพื้นที่จัดงานจากย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเขตบางรักออกไปสู่การขยายพื้นที่สร้างสรรค์การออกแบบสู่ชุมชนอื่น ๆ ของกรุงเทพมหานคร หรือการจัดงาน “Money Expo” ไปจนถึงการจัดบูธรถยนต์หลายแบรนด์ภายในงาน “Motor Expo” สะท้อนให้เห็นประสบการณ์ของเธอที่ผ่านการจัดอีเวนต์และนิทรรศการหลากรูปแบบมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเข้ามารับงานนำทัพ MQDC Brite เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญด้วยแนวคิดบริษัทที่แตกต่าง มีเป้าหมายที่เน้นเรื่อง “ความสุขและรอยยิ้ม” ของผู้มาร่วมงานเป็นหลัก ท้าทายและเปิดกว้างในการสร้างไอเดียใหม่ทุกครั้งที่จัดอีเวนต์ ทำให้เราได้เห็นงานที่แหวกแนวจากในตลาดกันมากขึ้น
เจ้าแห่ง “Themed Festival” และการปั้นไอเดียแปลกใหม่
หลายอีเวนต์ที่ MQDC Brite เป็นผู้จัดมาตลอดหลายปีช่วยสร้างภาพจำที่ชัดเจนขึ้นว่าออร์แกไนเซอร์เจ้านี้มี ‘จุดแข็ง’ อย่างไรในตลาด
ยกตัวอย่างเช่น งานอีเวนต์ “The Forestias Story & Beyond” ณ พารากอน ฮอลล์ ซึ่งเป็นงานสรุปย้ำคอนเซปต์ของเมกะโปรเจ็กต์ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ในช่วงโค้งท้ายก่อนเริ่มส่งมอบที่พักอาศัยภายในโครงการและเริ่มเปิดให้บริการในส่วนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
ภาพบรรยากาศงาน The Forestias Story & Beyond
งานนี้ปอยระบุว่าเป็นดั่ง ‘มาสเตอร์พีซ’ ที่โชว์ความสามารถของทีมงาน MQDC Brite เป็นงานที่กล้าฉีกแนวเสนอ “ไอเดียแปลกใหม่” ในการสร้างอีเวนต์ ด้วยการนำ Entertainment Value มาสร้างสรรค์งาน โดยมีเวลาจำกัดเพียง 1 เดือนครึ่งในการเนรมิตงานทั้งหมดขึ้นมา!
ที่บอกว่าแปลกใหม่คืองานนี้นำเสนอเรื่องราวของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ด้วยการสร้างสรรค์ Live Performance โดยแยกออกเป็น 3 เวทีที่ตั้งล้อมรอบผู้ชม 3 ด้าน แต่ละเวทีเล่าเรื่องด้วยลักษณะของ Immersive Experience มีการแสดงประกอบระหว่างการบรรยายของผู้บริหาร และมีโชว์เทคนิคแสงสีเสียง โชว์เวทีเคลื่อนที่ได้
ทั้งหมดเป็นเรื่องใหม่ในอีเวนต์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ แต่ประสบความสำเร็จในการสร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดการเสนอโครงการ ทำให้ผู้ชมต้องจับตาว่าจะมี ‘ลูกเล่น’ อะไรออกมาอีก
“The Awakening Forestias” ช่วงเทศกาลฮัลโลวีน
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือกลุ่มอีเวนต์ประจำปีที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ จะมีการจัดอีเวนต์ 3 เทศกาล ได้แก่ “The Vibrant Forestias” ช่วงเทศกาลสงกรานต์, “The Awakening Forestias” ช่วงเทศกาลฮาโลวีน และ “The Luminous Forestias” ช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ปอยกล่าวว่า อีเวนต์ทั้ง 3 เทศกาลถือเป็น “Themed Festival” สำคัญและสร้างชื่อให้กับ MQDC ผู้พัฒนาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ จากการเนรมิตพื้นที่โล่งว่างและป่าที่กำลังเติบโตให้กลายเป็นพื้นที่เทศกาลแห่งความสุข สร้างเสริมจินตนาการ และเน้นการจัดการที่ “เหมาะกับคนทุกเจนเนอเรชัน” สามารถสร้าง Multigenerational Experience ช่วงเวลาความสุขร่วมกันของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะสามารถจัดงานให้ปลอดภัยต่อเด็ก ไม่มีแอลกอฮอล์และสิ่งไม่พึงประสงค์
The Luminous Forestias ปี 2023
ความสำเร็จวัดได้จากจำนวนคนเข้าร่วมงาน เช่น The Awakening Forestias ปี 2022 มีผู้เข้าร่วมงานถึง 30,000 คน ตลอด 10 วันที่จัดงาน และกลายเป็นปรากฏการณ์การจัดงานฮาโลวีนที่มีคนตั้งตารอคอย หรือ The Luminous Forestias ปี 2023 ที่เปิดโควตาให้เข้าร่วมงานในบรรยากาศคริสต์มาสแห่งความสุขในผืนป่าได้วันละ 3,000 คน ปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนเต็มโควตาตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกที่เปิดรับ
นอกจากนี้ ปอยยังระบุถึงจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของ MQDC Brite คือ “ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม” ถือเป็นแนวคิดหลักในการทำงานที่จะต้องจัดอีเวนต์ให้มีขยะเหลือน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเน้นการใช้วัสดุที่นำไปใช้ใหม่ (reuse) ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในงานถัดไปหรือบริจาคให้กับผู้อื่นก็ตาม ซึ่งเธอมองว่าเรื่องนี้ ‘ไม่ง่าย’ เพราะต้องมีองค์ความรู้ที่สั่งสมมาในการออกแบบและใช้วัสดุให้เหมาะสม
MQDC Brite ปี 2567 พร้อมรับงานภายนอกเต็มตัว
สำหรับเป้าหมายปี 2567 ของ MQDC Brite ปอยเปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทเตรียมขยาย “การรับงานภายนอกเครือ” ให้มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากเริ่มชิมลางไปบ้างแล้วตั้งแต่กลางปี 2565 มาปีนี้บริษัทคาดจะขยายสัดส่วนรับงานภายนอกขึ้นเป็น 20-30% ของทั้งบริษัท โดยสามารถจัดงานอีเวนต์ได้ทุกขนาดตั้งแต่งานจัดประชุมขนาดเล็กจนถึงอีเวนต์สาธารณะขนาดใหญ่
รวมถึงบริษัทยังมีบริการงานส่วน “Hospitality Experience” ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของงานบริการลูกค้าในประเทศไทย ทางทีมจะออกแบบและดูแลประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในพื้นที่ ให้มั่นใจได้ว่าแต่ละท่านได้รับการต้อนรับ ดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอนแบบต่อเนื่องไร้รอยต่อ รวมถึงได้รับข้อมูลที่กำหนดอย่างครบถ้วน และเดินทางกลับบ้านพร้อมกับความสุขและความประทับใจ
อีกเป้าหมายหนึ่งคือบริษัทเริ่มเปิดแผนกใหม่ในส่วน “Entertainment Business” จึงคาดว่าปีนี้บริษัทน่าจะกรุยทางธุรกิจภายใต้บทบาทใหม่ในฐานะผู้จัด ผู้นำเข้า กิจกรรมความบันเทิง นวัตกรรมการแสดงระดับโลก และการร่วมสร้าง Destination ใหม่ ที่เปิดประตูประสบการณ์บันเทิงที่เต็มไปความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ สำหรับผู้ชม
แม่ทัพอีเวนต์แห่ง MQDC Brite ยังวิเคราะห์ภาพธุรกิจอีเวนต์ในปี 2567 ด้วยว่าจะมีความท้าทายมากขึ้นจาก “พฤติกรรมผู้บริโภค” ที่เปลี่ยนรสนิยมเร็ว และต้องการประสบการณ์ผสมผสานทั้งออนไลน์-ออฟไลน์มากยิ่งขึ้น
“เราต้องพัฒนาให้ทันกระแส เสนอความทันสมัยในการจัดอีเวนต์แบบ ‘Immersive and Seamless Experience’ ภายในงานต้องเชื่อมต่อออฟไลน์เข้ากับออนไลน์ (O2O) ได้ ต้องมีองค์ประกอบอินเตอร์แอคทีฟให้กับผู้มาร่วมงาน” ปอย – โสภิดากล่าว “เรื่องนี้ทำให้บริษัทต้องพัฒนาคนของเราให้ตามทันเทคโนโลยีใหม่ ติดตามว่ามีเทคโนโลยีอะไรใหม่ออกมา เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเขาเปลี่ยนไวมาก”
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายก็มีปัจจัยบวกเช่นกัน โดยปอยมองว่าตั้งแต่ปีก่อนมีกระแสของการกลับมาใช้ชีวิตในพื้นที่ออฟไลน์ ผู้บริโภคต้องการออกมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง รวมถึงเชื่อว่าด้วยเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า จะทำให้ลูกค้าแบรนด์หรือบริษัทต่างๆ ต้องการโหมจัดอีเวนต์การตลาดเพื่อกระตุ้นการบริโภค
เหล่านี้คือข้อดีต่อธุรกิจอีเวนต์ที่น่าจะทำให้บริษัทได้อานิสงส์ในการรับงาน เป็นโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เราน่าจะได้เห็นงานอีเวนต์แปลกใหม่ที่โชว์ศักยภาพของ MQDC Brite ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นในปี 2567 นี้!