การทำเงินจากแอพพลิเคชั่นเริ่มเห็นมากขึ้นในธุรกิจเกี่ยวกับหนังสือ ที่ไม่เพียงบรรดานิตยสารออกเวอร์ชั่นดิจิตอลกระโดดโชว์ตัวในหน้าจอไอแพดกันอย่างคึกคักไปแล้วเท่านั้น ”ร้านหนังสือ” ก็พาเหรดกันกลายเป็นแอพฯ ยกมาทั้งร้าน ที่มาด้วยความหวังว่าธุรกิจร้านหนังสือจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตด้วยพลังของแอพฯ
จุดเปลี่ยนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหนังสือ นิตยสาร และร้านหนังสือมาจากการเกิดขึ้นของไอแพดที่อำนวยความสะดวกในการอ่านหนังสือดิจิตอลอย่างแท้จริง โดยผู้อ่านเพียงแค่ดาวน์โหลดก็ได้อ่านแล้ว ทำให้การอ่านหนังสือง่าย มีสีสัน โดยไม่จำเป็นต้องไปร้านหนังสือ แล้วถือหนังสือติดตัวตลอดเวลา
ธุรกิจนี้มีผู้เล่นระดับโลกอย่างแอปเปิลเองที่ทำตัวเองเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ด้วยแอพฯ iBook ที่หนังสือเล่มใดก็สามารถพัฒนาเป็นแอพฯแล้วไปขึ้นชั้นกับ iBook Store ที่มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ยังมี “อะเมซอน” และ “บาร์นสแอนด์โนเบิล” ที่พัฒนาร้านหนังสือบนแอนดรอยด์ ตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ในการขายแท็บเล็ตของตัวเองได้อย่างครบวงจร
สำหรับในไทยร้านหนังสือขนาดใหญ่อย่างเอเชียบุ๊คส บีทูเอส ก็ประกาสเปิดตัวแอพฯ ไปตั้งแต่ปลายปี 2011 โดยบีทูเอสคาดหวังยอดขายผ่านแอพฯ ไว้ถึง 50 ล้านบาท จนมาถึงร้านล่าสุด ”นายอินทร์” ในเครืออมรินทร์ ก็ทุ่มงบถึง 8 ล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบ และการทำตลาดรองรับแอพฯ “NaiinPANN” ขึ้นบน “แอพสโตร์” ของแอปเปิล ก่อนที่ไตรมาส 2 จะเปิดร้านในแอนดรอยด์ และวินโดวส์โมบายล์
“ถนัด ไทยปิ่นณรงค์” กรรมการผู้จัดการ บริษัทอมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้บริหาร ”ร้านนายอินทร์” บอกว่าเทรนด์ที่เห็นคือคนรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีอย่างแท็บเล็ต มีคนใช้จำนวนหลักแสนเครื่อง โดยเฉพาะไอแพด ที่นอกจากคนจะใช้เล่นเกมแล้วยังชัดเจนว่าใช้เพื่ออ่านหนังสือกันจำนวนมาก
หากลูกค้าไม่ซื้อ ก็สามารถใช้ NaiinPANN เป็น Marketing Tools เพื่อแจ้งข่าวสารให้นักอ่านรู้ว่ามีหนังสืออะไรออกใหม่แล้วบ้าง แต่ที่สำคัญ NaiinPANN มีหนังสือดิจิตอลพร้อมให้ซื้อแล้วประมาณ 1,000 เล่ม ด้วยราคาที่ถูกกว่าประมาณ 20-30%
การเตรียมแอพฯ NaiinPANN นี้ ”ถนัด” บอกว่ามีทีมพัฒนากันเองภายในองค์กร เพราะธุรกิจนี้ยังต้องขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนจึงคุ้มค่ากว่าการจ้างบริษัทอื่นพัฒนาให้ ซึ่งได้ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการพัฒนาและจากการลงทุนถึง 8 ล้านบาท แม้จะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะคุ้มทุน แต่การลงทุนครั้งนี้ไม่ทำไม่ได้อีกต่อไป เพราะกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนี้อยู่หน้าจอแท็บเล็ตกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อมีแอพฯ แล้ว ต้องสื่อถึงกลุ่มเป้าหมาย และมีโปรโมชั่น โดยนายอินทร์ร่วมกับดีแทค ให้ลูกค้าดีแทคดาวน์โหลดนิตยสารในเครืออมรินทร์ฟรีจนถึงเดือนเมษายาน จากปกติลูกค้าทั่วไปต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลดซื้อนิตยสารแต่ละเล่ม
ขณะนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของร้านในโลกดิจิตอล โดย ”ถนัด” เชื่อว่าธุรกิจร้านหนังสือยังคงเติบโตอีกหลายปี เพราะคนที่อ่านหนังสือในรูปแบบเดิม ก็ยังคงเข้าร้านเพื่อซื้อหนังสือ
แต่วันหนึ่งเทคโนโลยีจะทำให้หนังสือเมีรูปแบบที่ปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเป็น E-Book และE-Magazinee และแอพฯ คือช่องทางหนึ่งที่จะช่วยดึงคนรุ่นใหม่ หรือคนที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือให้หันมาสนใจ ทำให้ธุรกิจนี้มีลูกค้าหน้าใหม่เดินเข้ามาไม่ขาดสาย และแน่นอนว่าการเริ่มในวันนี้ จะทำให้ร้านหนังสือไม่ตายเพราะตามเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายไม่ทัน
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
E-Book/E-Magazine
จากแอพฯ NaiinPANN
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
ฟรีของหมวด Books ใน App Store
Technology)
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>25%
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>18%
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>18%
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>9%
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>6%
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>5%
Professionals อเมริกา ก.ย.2011
Profile
ร้านหนังสือนายอินทร์ ภายใต้บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ในเครือบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดสาขาแรกที่ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2537
ปัจจุบันมีลูกค้าอายุ 15-35 ปี จำนวนมากกว่า 50% ของลูกค้าทั้งหมด มีสาขาทั่วประเทศ 200 สาขา ในปี 2555 เตรียมขยายอีก 30 สาขา ด้วยงบลงทุนสาขาละประมาณ 1.5-2 ล้านบาท บนพื้นที่เฉลี่ย 100 ตารางเมตร