ห้างสรรพสินค้า “Target” ในสหรัฐฯ เป็นรีเทลรายล่าสุดที่เปลี่ยนนโยบายการใช้ “ช่องชำระเงินด้วยตนเอง” (Self Check-out) โดยห้างนี้ใช้วิธีจำกัดชั่วโมงการใช้งานเป็นบางช่วงเวลา และกำหนดให้ใช้เฉพาะลูกค้าที่ชำระเงินไม่เกิน 10 ชิ้น สาเหตุหลักคาดว่ามาจากปัญหาการขโมยของหรือการเนียนไม่จ่ายเงินเป็นบางชิ้น
เมื่อปี 2023 รีเทลหลายรายของสหรัฐฯ ต่างเปลี่ยนนโยบายการใช้ “ช่องชำระเงินด้วยตนเอง” (Self Check-out) เพราะพบว่าช่องนี้ไม่ได้ช่วยลดแรงงานคนลง แถมยังทำให้ขโมยของง่ายขึ้นด้วย
ล่าสุดห้าง “Target” เป็นอีกหนึ่งรายที่เปลี่ยนนโยบายการใช้ช่องชำระเงินด้วยตนเอง โดยอนุญาตเฉพาะลูกค้าที่จะซื้อสินค้าไม่เกิน 10 ชิ้นเท่านั้นที่สามารถใช้ช่องนี้ได้ ทางห้าง Target ให้เหตุผลว่า “เพื่อลดเวลาการรอชำระเงิน และทำให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Business Insider มีข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวพนักงานของห้างสรรพสินค้า “Target” หลายคนบอกตรงกันว่า สาขาที่ตนทำงานไม่ใช่แค่ให้จ่ายค่าสินค้าได้ไม่เกิน 10 ชิ้นที่ช่องชำระเงินด้วยตนเอง แต่ห้างยังปิดช่องนี้ในช่วงเวลาก่อน 10 โมงเช้าและหลัง 2 ทุ่มด้วย
ทั้งนี้ การพิจารณาปิดช่องเป็นช่วงเวลาเกิดขึ้นแค่บางสาขาเท่านั้น จากทั้งหมด 2,000 สาขาที่ Target มีในสหรัฐฯ คาดว่าหลักเกณฑ์พิจารณาขึ้นอยู่กับยอดขายสาขาและจำนวนพนักงานในสาขานั้นๆ
พนักงานคนหนึ่งจากสาขาในรัฐมิชิแกนระบุว่า ปกติห้าง Target จะเปิดเวลา 7 โมงเช้าหรือ 8 โมงเช้า และจะปิดเวลา 4 ทุ่มตรง การปิดช่องชำระเงินด้วยตนเองในช่วงเช้าและช่วงดึกน่าจะทำให้ลูกค้าหงุดหงิดมาก และพนักงานคงต้องอธิบายไปตามตรงว่า “ต้องปิดเพื่อป้องกันขโมย”
ก่อนหน้านี้มีการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าอัตราสินค้าที่ไม่ถูกสแกนเมื่อใช้ช่องชำระเงินด้วยตนเองนั้นสูงถึง 6.7% (รวมทั้งที่ตั้งใจไม่สแกนจ่ายและที่เผลอลืมสแกน) ถือว่าสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับอัตราสินค้าที่ไม่ถูกสแกนเมื่อใช้ช่องแคชเชียร์ปกติซึ่งมีเพียง 0.3% เท่านั้น
สต็อกสินค้าที่เหลือกับยอดขายที่ไม่ตรงกัน ทำให้ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เริ่มรู้ตัวว่าช่องชำระเงินด้วยตนเองอาจจะก่อปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยชิ้นอื่นที่พบว่าการให้ลูกค้าชำระเงินด้วยตนเอง จะทำให้ “แบรนด์ลอยัลตี้” เป็นไปในเชิงลบ โอกาสที่พนักงานจะเสนอโปรโมชันหรือแคมเปญต่างๆ จากทางห้างฯ ก็ยากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พนักงาน Target สาขาในรัฐโอคลาโฮม่าบอกว่า ขณะนี้ห้างฯ กำลังเน้นให้พนักงานโปรโมตบัตรเครดิต Target Red ของบริษัท ซึ่งแปลว่าถ้าแคชเชียร์ได้เจอลูกค้าก็จะมีโอกาสขายของง่ายกว่า
เมื่อปีที่แล้วรีเทลรายใหญ่ของสหรัฐฯ เริ่มเปลี่ยนนโยบาย Self Check-out กันหลายราย เช่น Costco กลับมามีพนักงานประกบที่เครื่องชำระเงินด้วยตนเอง ขณะที่ Walmart กับ Kroger ทดลองนำเครื่องชำระเงินด้วยตนเองออกบางสาขาแล้ว