เข้าสู่ซีซั่น 2 ของโปรเจ็กต์ “Dream Stadium” เปลี่ยนสนามฟุตบอลเก่าให้กลับมาเหมือนใหม่ เติม “ความฝัน” ให้เด็กๆ ในชุมชนทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซีซั่นนี้ “คิดไซด์โค้ง” จับมือกับสปอนเซอร์หลัก “SC Asset” และอีก 4 พันธมิตร ปรับปรุงสนามฟุตบอล 6 สนาม พร้อมสร้างทัวร์นาเมนต์แข่งขันระหว่างชุมชนกระตุ้นการใช้งานและใจรักกีฬาของเยาวชน
โปรเจ็กต์ “Dream Stadium…สนามแห่งฝัน” เป็นโปรเจ็กต์ที่เริ่มต้นจุดประกายโดย “Think Curve คิดไซด์โค้ง” เอเจนซี่สื่อด้านการกีฬา มีเป้าหมายเข้าไปปรับปรุงสนามฟุตบอลที่เก่าทรุดโทรมในกรุงเทพฯ ให้กลับมาน่าใช้งาน เพื่อให้คนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กๆ มีพื้นที่ให้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย โดยซีซั่นแรก Dream Stadium มีการปรับปรุงไปแล้ว 4 สนาม
กฤติกร ธนมหามงคล ผู้บริหาร บริษัท คิดไซค์โค้ง จำกัด กล่าวถึงจุดตั้งต้นของโครงการนี้ว่า มาจากสถิติจำนวนพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯ ที่มีไม่ถึง 1,000 แห่ง เทียบกับประชากรกว่า 10 ล้านคนถือว่ามีน้อยมาก และที่มีอยู่จำนวนมากก็อยู่ในสภาพที่ไม่น่าใช้งาน นำมาสู่แนวคิดปั้นโปรเจ็กต์นี้
หลังตั้งโปรเจ็กต์ Dream Stadium ขึ้นและเชิญ กทม. มาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คิดไซด์โค้งยังได้พันธมิตรอีกหลายรายมาร่วมงาน ได้แก่ Big One Group ผู้จัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว, สโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สีทาบ้าน TOA, แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา VOLT รวมถึงในซีซั่น 2 มีพันธมิตรหลักรายใหม่เข้ามาสนับสนุนโครงการคือ “SC Asset” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของไทย เพิ่มศักยภาพการเนรมิตฝันปรับปรุงสนามให้ดีขึ้น
ในซีซั่น 2 ของ Dream Stadium จะมีการปรับปรุงสนามฟุตบอลอีก 6 แห่ง ได้แก่ สนามปิ่นเจริญ 3 ดอนเมือง, สนามกีฬาสวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ ห้วยขวาง, ลานกีฬาสามัคคี 4-6 หนองแขม, ลานกีฬาเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง, สนามเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3 สมุทรสาคร และ SEA Complex บางปู สมุทรปราการ รวมทั้ง 2 ซีซั่นจะมีสนามที่ได้รับการปรับปรุง 10 สนาม
การพบกันของคนมี “ความฝัน”
กฤติกรเล่าว่า ความฝันของเขากับโปรเจ็กต์นี้เป็นฝันที่เรียบง่ายมาก คืออยากจะเห็น “รอยยิ้ม” ของเด็กๆ บนสนามฟุตบอล
“คิดไซด์โค้งเราเป็นสื่อด้านกีฬาฟุตบอลเป็นหลัก เราจึงอยากจะพัฒนาด้านฟุตบอล และขอให้เด็กมีรอยยิ้มจากการเตะบอล” กฤติกรกล่าว
ส่วนสปอนเซอร์หลักอย่าง SC Asset เองก็เล็งเห็นว่าโปรเจ็กต์นี้มีความสอดคล้องตรงกันกับความฝันที่บริษัทมีในเชิงความรับผิดชอบต่อสังคม
“SC Asset มีแนวคิดเรื่องการพัฒนาอะไรคืนให้กับชุมชน ไม่ใช่แค่ขายโครงการอย่างเดียว เป็นสิ่งที่เรายึดถือมามากกว่า 10 ปีแล้วในฐานะนักพัฒนาอสังหาฯ” โฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์และสื่อสารองค์กร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าว “พอทางคิดไซด์โค้งเสนอโปรเจ็กต์มา เราเองไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับฟุตบอล แต่เราเข้าใจว่า ‘ความฝัน’ ของเขาคืออะไร และตรงกับฝันของเราที่ต้องการจะสร้างชุมชน สร้างเมือง ทำให้ชุมชนมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น”
SC Asset จึงตกลงสนับสนุนโปรเจ็กต์ Dream Stadium โดยนอกจากจะช่วยด้านงบลงทุนเพื่อปรับปรุงสนามแล้ว SC Asset ยังให้คำแนะนำการเลือกพื้นที่ชุมชนที่จะเข้าไปปรับปรุงสนามกีฬา และพร้อมที่จะส่งทีมงานจากไซต์โครงการโดยรอบของบริษัทเข้าไปช่วยเหลือในการทำงาน เพราะถือว่า Dream Stadium เข้ามาเป็นหนึ่งในระบบนิเวศชุมชนที่บริษัท SC Asset จะร่วมดูแลในระยะยาว
เติมไฟฝันด้วย “รูปนักเตะไทย” และ “ทัวร์นาเมนต์”
จากซีซั่นแรกของ Dream Stadium การเพ้นต์สนามใหม่ยังมีกิมมิกที่น่าสนใจด้วย นั่นคือการขอลิขสิทธิ์นำรูปมังงะกีฬาฟุตบอลในตำนานอย่าง “กัปตันสึบาสะ” ของอาจารย์โยอิจิ ทากาฮาชิ มาใช้เป็นรูปเพ้นต์ในสนาม สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ที่เข้ามาเล่นกีฬา
มาถึงซีซั่น 2 ทางโปรเจ็กต์ Dream Stadium ยังต่อยอดกิมมิกนี้ด้วยการขอลิขสิทธิ์รูปวาด “นักฟุตบอลไทย” ลายเส้นของอาจารย์ทากาฮาชิ มาใช้ในสนามแห่งใหม่ด้วย ได้แก่ “ธีรศิลป์ แดงดา” ในสนามกีฬาปิ่นเจริญ ดอนเมือง, “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ในสนามกีฬาสวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ ห้วยขวาง, “ธีราทร บุญมาทัน” ในสนามกีฬาสามัคคี หนองแขม และ “สิทธิโชค ภาโส” ในสนามกีฬาเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง
เหตุที่เลือกนักเตะไทยทั้ง 4 คนนี้ เพราะพวกเขาคือนักบอลไทยที่เคยได้ไปค้าแข้งในญี่ปุ่นและประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่รักฟุตบอลได้
นอกจากนี้ ปีนี้คิดไซด์โค้งยังริเริ่มการจัด “Dream Tournament” ทัวร์นาเมนต์แข่งฟุตบอลแบบทีม 5 คน อายุไม่เกิน 13 ปี แข่งกันระหว่างชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงสนามกีฬาทั้ง 10 แห่ง จัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้งานสนามให้มีชีวิตชีวา ทำให้เด็กๆ มีใจรักกีฬา และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เยาวชนก้าวเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลได้
เตรียมต่อยอดไปสู่กีฬาประเภทอื่น
กฤติกรเล่าต่อถึงการต่อยอดโปรเจ็กต์ Dream Stadium ที่นอกจากจะมีซีซันต่อๆ ไปแล้ว ยังจะต่อยอดขยายเพิ่มโปรเจ็กต์ “Dream Stadium Road to Sea Games” เพื่อเข้าไปปรับปรุงสนามกีฬาประเภทอื่นด้วย เช่น สนามบาสเก็ตบอล สนามวอลเลย์บอล เบื้องต้นวางเป้าหมายการปรับปรุงไว้ 20 สนาม ต้อนรับการเป็นเจ้าภาพ “ซีเกมส์ 2025” ของกรุงเทพฯ ร่วมกับชลบุรี และสงขลา
ฟากโฉมชฎาแห่ง SC Asset กล่าวว่าเบื้องต้นบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนโปรเจ็กต์นี้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดไหนก็ถือเป็นการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมชุมชนที่ตรงกับเป้าหมายของบริษัท
“โครงการนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ถ้าเราร่วมกันคนละไม้คนละมือทุกภาคส่วน เราจะสร้างเมืองที่ดีขึ้นมาได้จริงๆ” โฉมชฎากล่าวปิดท้าย