มาเลเซียตั้งเป้าเป็น ‘ศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค’ ภายในปี 2030 ดึงดูดสตาร์ทอัพหรือแม้แต่บริษัทเทคฯ เข้ามาลงทุนในประเทศ

ภาพจาก Unsplash
มาเลเซียเตรียมที่จะตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาคภายในปี 2030 ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดสตาร์ทอัพหรือแม้แต่บริษัทเทคฯ ต่างๆ เข้ามาลงทุนในประเทศ รวมถึงการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจในประเทศ

Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้กล่าวในงาน KL20 Summit ว่า มาเลเซียต้องการที่จะตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค และต้องการที่จะติด 1 ใน 20 ประเทศในดัชนี Global Start-up Ecosystem ภายในปี 2030 ให้ได้

แผนการดังกล่าวนั้นมีทั้งการที่จะปั้นให้มาเลเซียที่จากเดิมเป็นแหล่งสำหรับทดสอบและทำแพ็กเกจจิ้งชิป และมีส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมมากถึง 13% ให้กลายเป็นแหล่งสำหรับออกแบบชิป ซึ่งการออกแบบชิปถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงมากกว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งพื้นที่สำหรับการออกแบบชิปโดยเฉพาะ

โดยสำหรับพื้นที่สำหรับการออกแบบชิป นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียได้พูดคุยกับบริษัทออกแบบชิประดับโลกอย่าง Arm ในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

สำหรับการให้ความช่วยเหลือสตาร์ทอัพที่ตั้งธุรกิจในมาเลเซีย รัฐบาลได้วางแผนทั้งการให้ข้อมูลทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โอกาสในการหาลูกค้า การให้ความช่วยเหลือในเรื่องของวีซ่า หรือแม้แต่การให้ความรู้ในเรื่องการระดมทุน

นายกรัฐมนตรีของยังเชิญชวนให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มาลงทุนในประเทศ และยังกล่าวเสริมว่ากองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลก หรือ Venture Capital มากถึง 12 แห่งเตรียมที่จะตั้งสำนักงานในประเทศ เพื่อที่จะสร้างระบบนิเวศขึ้นให้ได้

ไม่เพียงเท่านี้กองทุนความมั่งคั่งของมาเลเซียอย่าง Khazanah Nasional เตรียมเม็ดเงินมากถึง 1,000 ล้านริงกิต เพื่อที่จะลงทุนในบริษัทมาเลเซียที่มีการเติบโตสูงและมีนวัตกรรมทันสมัยด้วย

Rafizi Ramli รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซียยังกล่าวเสริมในเรื่องของแผนการของมาเลเซียในครั้งนี้ว่า มาเลเซียต้องการที่จะดึงดูดสตาร์ทอัพจากทั่วโลก บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมถึงแรงงานทักษะสูง ซึ่งจะสร้างตำแหน่งงานทักษะสูงในอนาคต โดยตั้งเป้าว่าตำแหน่งงานดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังรวมถึงการให้วีซ่าระยะยาวแก่เจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพ การให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี เพื่อที่จะทำให้มาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาคให้ได้

ที่มา – Malay Mail, Reuters