AIS Academy – กระทรวง พม. เดินหน้าลุย “ภารกิจคิดเผื่อ” กับเป้าหมายสร้าง Digital Inclusion เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ลดความเหลื่อมล้ำ อย่างยั่งยืน


ยังคงเดินหน้า “ภารกิจคิดเผื่อ” สำหรับ AIS Academy โดยล่าสุดได้ร่วมกับกระทรวง พม. เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำการเป็นไม้ขีดไฟเล็ก ๆ จุดประกายความคิดให้เกิดเป็นกองไฟแห่งการทำงานจากทุกภาคส่วนเพื่อประชาชนร่วมกัน สร้างนวัตกรรม ทักษะความรู้ และโอกาสใหม่ๆ

อีก 12 ปี ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด

จากวิกฤตประชากรไทยที่อัตราเกิดลดลงมาเหลือเพียง 5 แสนกว่าคนต่อปี และภายในปี 2579 ไทยจะเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) คือมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 30% ส่งผลให้ประเทศไทยอาจต้องประสบปัญหาวิกฤตวัยแรงงาน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ กระทรวง พม. ที่ต้องเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ และคนพิการ เพื่อเป็นกำลังแรงงานให้กับประเทศ รวมถึงการเสริมพลังวัยทำงาน

“นโยบายของกระทรวง พม. คือลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมให้กับกลุ่มผู้บอบบาง อาทิ เด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อให้คนเหล่านี้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม แค่ภาครัฐทำอย่างเดียวคงจะสำเร็จได้ยาก ดังนั้น เอกชนจึงเป็นอีกกำลังสำคัญ” อนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว


กว่า 7 แสนคนที่ได้รับประโยชน์จากภารกิจคิดเผื่อ

หนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมมือกับกระทรวงพม. มาอย่างต่อเนื่องก็คือ AIS Academy ที่เริ่มตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้โครงการ ภารกิจคิดเผื่อ ไม่ว่าจะเป็น AIS Academy for THAIS, อุ่นใจอาสาพัฒนาชีพ และ ห้องสมุดดิจิทัล ส่งผลให้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา AIS Academy ได้ช่วยให้คนไทยกว่า 7 แสนคน มีทักษะ มีความรู้ ความเข้าใจ เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถของประชาชนและสังคม

ล่าสุด AIS Academy ได้สานต่อความร่วมมือกับกระทรวงพม. ตอกย้ำภารกิจคิดเผื่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำของคนไทย รวมทั้งการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ เอไอเอส ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตแบบร่วมกันของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“แม้ AIS Academy มีแนวคิดในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในของเอไอเอส แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการส่งต่อสู่สังคมไทย นี่จึงเป็นที่มาของโครงการภารกิจคิดเผื่อ ที่ต้องการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน โดยนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาร่วมผลักดันให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และกลุ่มอินทัช กล่าว


จุดไฟ 4 แกน ลดความเหลื่อมล้ำ

สำหรับแนวทางการทำงานของ AIS Academy ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับ SDGs เป้าหมายที่ 10  คือ การลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ (Reduce Inequalities) รวมถึง ข้อ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ ข้อ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ จนเกิดเป็นแนวทางการทำงาน 4 แกน ดังนี้

  • โครงการ Jump Thailand Hackathon 2024 : เพื่อเฟ้นหาไอเดียนวัตกรรมจากนักศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ
  • โครงการ Train The Trainer : สร้างทักษะยกระดับการพัฒนาอาชีพผ่าน จากโค้ชอุ่นใจอาสา ให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เพื่อส่งต่อไปยังประชาชนในการพัฒนาอาชีพต่อไป
  • สร้างความรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งจาก Digital Content ในรูปแบบของบทเรียน โดยพนักงานอุ่นใจอาสา
  • AIS ReadDi : สร้างโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการห้องสมุดดิจิทัล ปันความรู้ ด้วยแพลตฟอร์ม พร้อมมอบแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านโลก Digital อีกด้วย

“การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแรงไม่ได้สร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาส และลดช่องว่างในการแสดงศักยภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ รวมทั้งการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน หรือ Digital Inclusion อีกด้วยกานติมา กล่าว


ต้องเปิดกว้างและทำอย่างต่อเนื่อง

กานติมา ย้ำว่า จุดสำคัญที่ทำให้ภารกิจคิดเผื่อสามารถสร้างประโยชน์ให้คนไทยกว่า 7 แสนคน เป็นผลจาก การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ เปิดกว้างกับทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานร่วมกันกับกระทรวง พม. ตั้งแต่ปี 2564 ทำให้ AIS Academy ได้เข้าถึงปัญหาและกลุ่มเป้าหมาย ผสานกับศักยภาพของพนักงานและองค์กรในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม จนพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ยกระดับขีดความสามารถประชาชนได้อย่างตรงจุด

“ภารกิจคิดเผื่อเปรียบเสมือนไม้ขีดไฟเล็ก ๆ ที่จุดประกายความคิดให้เกิดเป็นกองไฟแห่งการทำงานจากทุกภาคส่วน และโครงการนี้จะเป็นต้นแบบสำคัญของความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ที่สะท้อนให้เห็นถึงการหนุนเสริมการทำงานระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน” กานติมา ทิ้งท้าย