ดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) สถาบันการเงินรายใหญ่จากเยอรมนี เตรียมรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยมองถึงโอกาสหลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปีหลังจากนี้จะมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลเพิ่มมากขึ้น 2 เท่า
สำนักข่าว Bloomberg ได้สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารของ Deutsche Bank ซึ่งเขาได้กล่าวว่าสถาบันการเงินรายนี้เตรียมรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้กับบรรดามหาเศรษฐีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น และจะมีการจ้างพนักงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น
Claudio de Sanctis ผู้บริหารสูงสุดของธุรกิจ Private Bank ของ Deutsche Bank ได้กล่าว่า ทางธนาคารได้มีการโยกย้ายกำลังคนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการจ้างงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องเพิ่ม
พนักงานที่สถาบันการเงินรายนี้จ้างมานั้นบางส่วนเป็นอดีตพนักงานที่มาจากเครดิตสวิส (Credit Suisse) ซึ่งถูก UBS ควบรวมกิจการไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน Deutsche Bank มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล (AUM) อยู่ที่ 650,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังตามหลัง UBS ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลเกือบ 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
Deutsche Bank คาดเม็ดเงินบางส่วนจะไหลออกจากสถาบันการเงินจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งลูกค้าบางส่วนเป็นลูกค้าทั้ง Credit Suisse และ UBS ส่งผลให้ลูกค้าเหล่านี้ต้องการหาสถาบันการเงินรายใหม่ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว
นอกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว Deutsche Bank เองยังเตรียมที่จะรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเพิ่มในตะวันออกกลางด้วย ผู้บริหารสูงสุดของธุรกิจ Private Bank รายนี้ยังได้กล่าวว่า 2 พื้นที่ดังกล่าวนี้ถือว่ามีความเชื่อมโยงกัน และมีความสำคัญมากขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมา
สำหรับลูกค้าระดับมั่งคั่งสูงสุด (Ultra High Networth) ของ Deutsche Bank จะต้องมีสินทรัพย์ฝากไว้กับสถาบันการเงินรายนี้อย่างน้อย 50 ล้านยูโร หรือไม่ก็ต้องเป็นลูกค้าที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 150 ล้านยูโร ถึงจะเป็นลูกค้าได้
เป้าหมายธุรกิจ Private Bank ของ Deutsche Bank คือมี AUM เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปีหลังจากนี้ และผู้บริหารรายนี้ยังมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของสถาบันการเงินรายใหญ่จากเยอรมนีรายนี้ด้วย