“Thai Fight” พลิกโฉมมวยไทย

การแข่งขันมวยไทยนอกเหนือจากเวทีมวยราชดำเนิน เวทีลุมพินี และเวทีมวยอ้อมน้อย ยังมีการจัดรายการแข่งขันที่ถือว่าเป็นการยกระดับมวยไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น 3 รายการสำคัญ นั่นคือ Thai Fight เค-วัน เวิลด์แมกซ์ และ Ultimate Fighting

แต่ละรายการจะมีทั้งนักมวยไทยและนักมวยต่างประเทศมาร่วมชก โดยเฉพาะไทยไฟท์ที่เรียกได้ว่าเป็นการชกระหว่างนักมวยไทยกับนักมวยต่างชาติ 

ทั้ง 3 รายการเป็นมวยไทยที่มีการตั้งกติกาขึ้นใหม่ ปรับจากการชก 5 ยกมาเหลือเพียง 3 ยก นอกจากชนะคู่ต่อสู้ด้วยการน็อก คะแนนแพ้ชนะจะขึ้นกับการออกอาวุธแม่ไม้มวยไทย 

“อย่างเค-วัน เป็นมวยไทยแต่ตั้งกติกาโดยต่างประเทศ ไม่ให้จับคอ ตีเข่า ลดอาวุธบางอย่างลง แต่จะตั้งมาอย่างไรไทยสู้หมด บัวขาวก็ดังจากชกเค-วันมาก่อน” ครูเป็ดให้ข้อมูล 

ถ้าไม่ใช่แฟนหมัดมวย การชกมวยไทยทั้งสามรายการปัจจุบันชื่อเสียงของไทยไฟท์โด่งดังที่สุด โดยเฉพาะการจัดชกครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2555 ที่เกิดกรณีพิพาทในวงการมวยระหว่างค่าย ป.ประมุขกับบัวขาว บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข อดีตนักมวยในสังกัด 

หากตัดประเด็นปัญหาความขัดแย้งออก ไทยไฟท์จัดเป็นรายการชกมวยไทยที่ทำให้ภาพลักษณ์ของมวยไทยปรับสู่ความเป็นกีฬาสากล และดูทันสมัยขึ้น นักมวยดูเท่และเป็นฮีโร่ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่แทรกเข้าไปในใจของคนไทยหลายคนที่เคยมองมวยไทยว่าเป็นกีฬาเฉพาะสำหรับคนบางกลุ่ม

บัวขาวทำให้มวยไทยดูดี เพราะไทยไฟท์พรีเซนต์นักมวยที่ขึ้นชกให้เป็นฮีโร่ ค่าตัวสูงรายได้ดี กลายเป็นไอดอลให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจมวยไทย 

กลุ่มผู้จัดไทยไฟท์เองก็มีวัตถุประสงค์แต่แรกว่า ต้องการให้มวยไทยรายการนี้ เป็นการยกระดับการแข่งขันมวยไทยขึ้นสู่ระดับสากล และให้ทั่วโลกยอมรับว่าการแข่งขันมวยไทยที่ดีที่สุด ที่สำคัญต้องจัดที่เมืองไทยเท่านั้น ด้วยการจัดการแข่งขันมวยไทยระดับนานาชาติ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันสไตล์สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือการผสมผสานมวยไทยและความบันเทิงเข้าด้วยกัน 

สิ่งที่ไทยไฟท์แตกต่างจากการชกมวยไทยระดับสากลที่มีอยู่ 3 รายการคือ เป็นมวยไทยรายการแรกที่คิดโดยคนไทยและมีคนไทยเป็นเจ้าของ ซึ่งปัจจุบันมี นพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด เป็นประธานจัดการแข่งขัน   

ก่อนจะหันมาจัดไทยไฟท์ นพพร เคยพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้กับมวยไทยมาแล้ว โดยการนำงานด้านบันเทิงที่ถนัดในฐานะผู้กำกับละครและภาพยนตร์ โดยนำมวยไทยนำเสนอในภาพยนตร์เรื่องอโยธยา และยามาดะ ซึ่งรวมเอานักมวยไทยที่มีชื่อเสียงมาร่วมแสดงจำนวนมาก ทั้งบัวขาว และครูเป็ดเองก็แสดงในเรื่องเดียวกัน 

ทั้งความบันเทิง ไทยไฟท์ และการนำมวยไทยไปผสมเพื่อความบันเทิงด้านกีฬา จึงล้วนมีส่วนช่วยยกระดับภาพลักษณ์มวยไทยมาอย่างต่อเนื่อง การที่มวยไทยกลายเป็นกีฬาในกลุ่มผู้หญิงในวันนี้ก็เป็นผลมาจากการปรับภาพลักษณ์มวยไทยในมิติเหล่านี้เช่นกัน