Alipay เพิ่มฟังก์ชันในแอปฯ ให้ AI ประเมินว่าผู้ใช้งานมีโอกาสหัวล้านหรือผมร่วงมากเกินไปหรือไม่

Photo : Shutterstock
อาลีเพย์ (Alipay) ได้เพิ่มฟังก์ชันให้ระบบ AI ประเมินว่าผู้ใช้งานมีโอกาสหัวล้านหรือผมร่วงมากเกินไปหรือไม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้น 1 ใน 6 ของชาวจีนกำลังประสบปัญหานี้อยู่ นอกจากนี้ทางแอปยังต้องการให้ผู้ใช้งานได้ใช้บริการอื่นๆ เพิ่มเติมนอกจากบริการจ่ายเงิน

South China Morning Post รายงานข่าวว่า Alipay แพลตฟอร์มบริการจ่ายเงินในประเทศจีน ได้เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้กับผู้ใช้งานผ่านมินิแอปประเมินว่าผู้ใช้งานมีโอกาสหัวล้านหรือผมร่วงมากเกินไปหรือไม่ ซึ้งปัญหาดังกล่าวนั้นกำลังคุกคามชาวจีนจำนวนมากในเวลานี้

มินิแอปดังกล่าวที่ตรวจสอบว่าผู้ใช้งานมีโอกาสหัวล้านหรือผมร่วงมากเกินไปหรือไม่ Alipay ได้พัฒนาร่วมกับทางคลีนิกที่เชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาหัวล้านและผมร่วงในเมืองหางโจว ฟังก์ชั่นดังกล่าวจะมีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ฝึกฝนโดยใช้รูปภาพจริงๆ หลายพันรูป

ระบบการทำงานจะตรวจสอบสภาพศรีษะและเส้นผมที่ผู้ใช้งานอัปโหลดรูปศรีษะทั้งด้านหน้า ด้านบน และด้านข้าง ขึ้นไปยังแพลตฟอร์มของบริษัท ซึ่งถ้าหากผู้ใช้งานเริ่มมีปัญหาผมร่วงมากเกินไปหรือมีโอกาสหัวล้านก็จะแนะนำให้ไปพบแพทย์

ปัญหาผมร่วงหรือแม้แต่ปัญหาหัวล้านในประเทศจีนถือเป็นปัญหาใหญ่ไม่น้อย ซึ่งข้อมูลจากหน่วยงานด้านสุขภาพของจีนรายงานตัวเลขดังกล่าวในปี 2020 ว่า ประชากรราวๆ 250 ล้านคนกำลังประสบปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันวัยรุ่นชาวจีนเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ท่ามกลางความเครียด มลภาวะ ท่ามกลางการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

Cai Kefa ผู้จัดการโครงการใช้ AI เพื่อเช็คว่าผมร่วงและหัวล้านหรือยังของ Alipay ได้กล่าวว่าในมินิแอปสามารถแจ้งเตือนเวลาผมร่วงได้ทันท่วงทีในทางวิทยาศาสตร์ เขายังกล่าวว่าสิ่งนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเลิกพึ่งพาวิธีการรักษาตามความเชื่อ เช่น การถูขิงบนศีรษะ เป็นต้น

ในช่วงที่ผ่านมาแอปชื่อดังของจีนรายนี้ ได้พยายามฉีกแนวออกจากบริการจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนที่จะปรับบริการให้เน้นเป็นเครือข่ายทางสังคม (Social Network) ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางพูดคุยในเรื่องที่ผู้ใช้งานสนใจไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ไวน์ แคมป์ปิ้ง เบสบอล เดินป่า ตกปลา ปั่นจักรยาน เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ Alipay ยังมีความพยายามให้ผู้ใช้งานเข้าใช้แพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้นด้วยการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ที่ครอบคลุมในด้านต่างๆ เช่น การเงิน ไลฟ์สไตล์ การดูแลสุขภาพ เพิ่มเติมจากเครือข่ายทางสังคม ซึ่งฟังก์ชั่นดังกล่าวนั้นถือเป็นอีกบริการที่บริษัทต้องการจะฉีกแนวจากคู่แข่ง