Volkswagen ลงทุนใน Rivian แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ เป็นเงินถึง 184,000 ล้านบาท เพื่อขยายตลาด EV เพิ่ม

ภาพจาก Shutterstock
โฟล์คสวาเก้น (Volkswagen ) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ได้ประกาศลงทุนใน ริเวียน (Rivian) ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่ายถือว่าเป็นกลยุทธ์ Win-Win เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีรายนี้ประสบปัญหาในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของรถยนต์ ขณะที่ผู้ผลิตจากสหรัฐอเมริกานั้นประสบปัญหาเงินสดขาดมือ และต้องการขยายตลาดไปเอเชียและยุโรป

Volkswagen แบรนด์ยานยนต์จากเยอรมนี ประกาศร่วมทุนใน Rivian แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ เป็นมูลค่ารวมถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 184,000 ล้านบาท โดยบริษัทต้องการที่จะขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติมจากที่มีอยู่

การลงทุนนของ Volkswagen จะมีการลงทุนใน Rivian เริ่มต้นที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งมีการถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากัน

โดยการลงทุนและการร่วมทุนดังกล่าวจะทำให้ Volkswagen เข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาของ Rivian และเข้าถึงซอฟต์แวร์รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้รถยนต์ของในเครืออย่าง Audi หรือ Porsche ฯลฯ สามารถใช้ซอฟต์แวร์จากกิจการร่วมทุนดังกล่าว และจะช่วยให้ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีรายนี้ประหยัดเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์

ในช่วงที่ผ่านมามีรายงานในสื่อหลายแห่งชี้ว่า ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมันประสบปัญหาในการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และยังประสบปัญหาในการใช้ค่าใช้จ่ายมากเกินไป จนในท้ายที่สุดบริษัทต้องปลดผู้บริหารที่ดูแลในเรื่องดังกล่าว

ไม่เพียงเท่านี้การลงทุนใน Rivian เองนั้นยังถือเป็นการเร่งให้บรรลุเป้าหมายของ Volkswagen ที่ต้องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้เต็มรูปแบบภายใน 5 ปี

ขณะที่ Rivian จะมีเม็ดเงินหมุนเวียน เพื่อที่จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่น R2 ออกมาได้ และเม็ดเงินดังกล่าวยังทำให้บริษัทสามารถโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่มเติม รวมถึงสามารถขยายตลาดไปยังทวีปเอเชียและทวีปยุโรปได้

และเม็ดเงินดังกล่าวของ Volkswagen ยังเป็นการต่ออายุให้กับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้จากสหรัฐฯ รายนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ในสภาวะที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ส่งผลทำให้ต้นทุนการเงินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น และการหาเม็ดเงินก้อนใหญ่จากผู้ลงทุนในเวลานี้ถือว่าเป็นเรื่องยาก

ขณะเดียวกันสถานการณ์การเงินของ Rivian เองก็ไม่ได้ดีมากนัก ล่าสุดบริษัทเหลือเงินสดและสินทรัพย์เทียบเท่าแค่ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ฉะนั้นการที่บริษัทได้เม็ดเงินจาก Volkswagen เหมือนกับเป็นการต่ออายุของบริษัทไปได้อีกระยะใหญ่

ที่มา – CNN, Euronews