ติดดอยก่อน Go to the Moon! ผลสำรวจชี้ 96% ของ NFT ตายไปจากตลาด และ 43% ของผู้ถือครองไม่สามารถทำกำไรได้

Cryptocurrency NFTs can be used to commodify digital creations, such as digital art, video game items, and music files.
ดูเหมือนว่าตลาด NFT ไม่ใช่แค่ทรงกับทรุด แต่กลายเป็นทรุดกับทรุด เพราะจากการสำรวจของ nftevening.com พบว่า 96% ของ NFT ในตลาดถือว่า ตายไปแล้ว และนักลงทุนเกือบครึ่งไม่สามารถทำกำไรได้

แม้ว่าในช่วงแรกจะมีผู้คนให้ความสนใจและระดมทุนเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันตลาด NFT กลับเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก เพราะสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วและตกต่ำอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

โดยจากการวิเคราะห์ของ nftevening.com ที่สำรวจในคอลเลกชัน NFT กว่า 5,000 รายการ และธุรกรรม NFT 5 ล้านรายการ จาก NFTScan nftevening จากนั้นได้ใช้เกณฑ์ 3 ข้อเพื่อดูว่า NFT เหล่านั้น ตายไปจากตลาดหรือไม่ ได้แก่

  • ปริมาณการซื้อขายเป็นศูนย์
  • ยอดขาย 7 วันต่ำ
  • ไม่มีกิจกรรมบน X (Twitter) ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ซึ่งผลสำรวจพบว่า 96% ของ NFTs ถือว่า ตาย แล้ว และในปี 2023 ถือเป็นปีที่ NFT ตายมากที่สุดถึง 30% ขณะที่เจ้าของที่ถือครอง NFT ประมาณ 43% ไม่สามารถทำกำไรได้ นอกจากนี้ อายุขัยเฉลี่ยของ NFT นั้นสั้นมาก โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 1.14 ปี เท่านั้น ซึ่งสั้นกว่าอายุขัยเฉลี่ยของโครงการคริปโตแบบดั้งเดิมถึง 2.5 เท่า 

โดยอายุขัยที่สั้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของการเก็งกำไรอย่างเข้มข้นของ NFT ซึ่งความผันผวนของราคาอย่างรวดเร็วทำให้ สินทรัพย์ดิจิทัลไม่สามารถรักษามูลค่าในระยะยาวได้ ดังนั้นจะเห็นว่า ตลาด NFT ที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นอนาคตของการเป็นเจ้าของและการลงทุนทางดิจิทัล กำลังประสบกับความยากลำบากอย่างมาก และอายุการใช้งานที่สั้นของ NFT แสดงให้เห็นว่า ตลาดนี้อาจไม่ใช่ห่านทองคำอย่างที่หลายคนคาดหวัง

อีกหนึ่งจุดที่แสดงถึงความไม่แน่นอนของตลาดก็คือ คอลเลกชันที่สามารถทำกำไรและขาดทุนที่ต่างกันมาก สำหรับคอลเลกชัน NFT ที่ทำกำไรได้มากที่สุดตอนนี้ Azuki โดยผู้ถือครองจะได้รับผลตอบแทนมากกว่า 2.3 เท่าของเงินลงทุนเริ่มต้น ซึ่งคอลเลกชัน Azuki นั้น มีความโดดเด่นที่สไตล์ทางศิลปะ และการสนัยสนุนจากคอมมูนิตี้ที่แข็งแรง 

ส่วนคอลเลกชันที่ ขาดทุนมากที่สุด คือ Pudgy Penguins เนื่องจากผู้ถือครองต้องขาดทุนถึง 97% ทำให้เป็นคอลเล็กชันที่มี กำไรน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Source