Spotify ผู้ให้บริการเพลง On-demand ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในออสเตรเลีย http://www.spotify.com/au/ พร้อมประกาศรายชื่อพันธมิตรของสินค้าบริการท้องถิ่น อันได้แก่ McDonald’s, ธนาคาร Commonwealth, ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Carlton United Brewers และสถานีวิทยุวัยรุ่น Triple J เป็นต้น ส่วน Coca-Cola ที่เป็นหุ้นส่วนหลักทั่วโลกนั้น ก็มีแนวโน้มว่าจะมาร่วมงานกับ Spotify สาขาล่าสุดที่ออสเตรเลียด้วย
Spotify ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน มีเพลงกว่า 16 ล้านเพลงให้ฟังฟรีๆที่เรียกว่า Spotify Free ที่มาพร้อมกับโฆษณาและสามารถฟังเพลงได้เพียง 10 ชั่วโมงต่อเดือน หรือจะสมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณามากวน ก็มีให้เลือก 2 แบบคือ Spotify Unlimited เดือนละ 6.99 เหรียญออสเตรเลีย และ Spotify Premium เดือนละ 11.99 เหรียญออสเตรเลีย ที่มาพร้อมกับบริการที่เหนือกว่า สามารถฟังเพลงผ่าน App ในมือถือ และเล่นเพลง Offline โดยไม่มีอินเทอร์เน็ตได้
Business Model ของ Spotify มาจากรายได้หลัก 2 ทางคือ ค่าโฆษณาที่พันธมิตรทางธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้นจะได้รับ ซึ่งมาในรูปแบบ Banner และ Spot เสียงโฆษณา และอีกทางคือค่าสมาชิกรายเดือนสำหรับกลุ่มที่ไม่มีโฆษณา ส่วนค่ายเพลงนั้นจะได้รับ Royalty Fee ทุกครั้งที่เพลงนั้นๆ ถูกเล่น และยังได้รับรายได้ส่วนหนึ่งจากค่าสมาชิกรายเดือนด้วย
ตลาดเพลงของออสเตรเลียใหญ่นั้นเป็นอันดับ 6 ของโลก ฉะนั้นการรุกคืบเข้าสู่ตลาดออสเตรเลียนับว่าเป็นการเติบโตที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของ Spotify ในปัจจุบันการละเมิดสิทธิ์ทางปัญญานั้นทำได้ง่ายในโลกออนไลน์
แต่การเกิดขึ้นของ Spotify นั้นช่วยสร้างรายได้กลับคืนให้กับค่ายเพลงและศิลปินในยุโรปกว่า 324 ล้านเหรียญออสเตรเลีย เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เคยเสียไปจากการละเมิดสิทธิ์ทางปัญญาของเทปผีซีดีเถื่อน
ส่วนผู้ฟังชาวไทยคงต้องรอกันต่อไปเพราะ Spotify ยังไม่เปิดให้บริการทั่วโลก ปัจจุบัน Spotify มีผู้ใช้บริการกว่า 13 ล้านคน ใน 16 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก หมู่เกาะแฟโร ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา