เกษตรกรรมขึ้นชื่อว่าเป็นหัวใจสำคัญของอาหารการกินโดยเฉพาะในประเทศไทยที่การทำเกษตรกรรมแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ ผลผลิตส่วนใหญ่ได้จากการเกษตรทั้งสิ้น เรียกได้ว่าถ้าเกษตรปลอดภัย ก็ช่วยให้ผลผลิตปลอดภัย มีคุณภาพด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการที่มีโซลูชั่นช่วยดูแลพืชพรรณก็จะดีไม่น้อย
เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย นอกจากจะมีธุรกิจใหญ่ในเรื่องของเมล็ดพันธุ์พืช และปุ๋ยแล้ว ยังมีธุรกิจที่เรียกว่า “อารักขาพืช” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเคมีเกษตรในไทยและอาเซียน ที่ช่วยดูแลทั้งพืช และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
อารักขาพืชเจียไต๋ ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ภายใต้กรอบแนวคิดตามหลักมาตรฐานทางจริยธรรมขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO Code of Conduct) ทุกผลิตภัณฑ์ของอารักขาพืชเจียไต๋ผลิตภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยนับครั้งไม่ถ้วนว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้งาน ชุมชนรอบข้าง รวมถึงผู้บริโภค เรารับผิดชอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นทาง ทั้งยังส่งเสริมให้มีการอบรมให้ความรู้ด้าน การใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมทั้งวิธีการและปริมาณที่ใช้แก่พนักงานขาย ร้านค้า และเกษตรกร โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของทุกภาคส่วน
หลายคนจะทราบดีว่า ในการทำเกษตรกรรมย่อมมีปัจจัยที่หลากหลาย ทั้งที่ควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น สภาพดิน สภาพอากาศ ภัยพิบัติ บางพื้นที่มีทรัพยากร มีสภาพแวดล้อมที่พร้อมสรรพ สามารถเพาะปลูกได้ผลผลิตดี แต่ในบางพื้นที่ต้องอาศัยปัจจัยส่งเสริมอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเกษตรประสบผลสำเร็จ
ในท้องตลาดจึงมีผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เกษตรกรเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์อารักขาพืชเจียไต๋ โดยบริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ที่เข้าใจถึงความต้องการของพืชแต่ละชนิด จึงช่วยบำรุงและดูแลพืชให้เจริญเติบโตในแต่ละช่วงได้อย่างเหมาะสม
ผลผลิตดี มีคุณภาพและความปลอดภัย คือเป้าหมายหลักของการเพาะปลูกแบบฉบับอารักขาพืชเจียไต๋
ธนพัฒน์ วงษ์โคเมท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอารักขาพืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด เล่าว่า
“เกษตรปลอดภัยคือหัวใจหลักของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อารักขาพืชเจียไต๋ เพราะเรามุ่งนำเสนอสินค้าคุณภาพสูง พร้อมด้วยบริการ และโซลูชั่นที่จะช่วยให้เกษตรกรใช้งานได้อย่างเหมาะสม ได้ผลผลิตดี ในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพอย่างปลอดภัย”
อารักขาพืชเจียไต๋มุ่งนำเสนอสินค้าคุณภาพสู่ตลาด พร้อมๆ กับตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงดำเนินธุรกิจบนมาตรฐาน ISO 14001: 2015 ซึ่งเป็นระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่นอกจากเป็นกรอบการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับพืชแต่ละประเภทแล้ว ยังช่วยส่งเสริมด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ อารักขาพืชเจียไต๋ยังมีห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ตั้งอยู่ภายในโรงงานเจียไต๋ อ้อมน้อย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025: 2017 สำหรับตรวจสอบสินค้าทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีมาตรฐานตรงตามข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร และการันตีคุณภาพของสินค้าได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้
ธนพัฒน์ กล่าวเสริมว่า “อารักขาพืชเจียไต๋เรามีพันธกิจนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นเชิงนวัตกรรม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเพาะปลูกให้กับเกษตรกร ทั้งยังสามารถลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ผู้บริโภค รวมถึงสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อเกษตรกรสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะมีความปลอดภัย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลผลิตทางการเกษตรที่อยู่ในท้องตลาดก็จะมีคุณภาพ และปลอดภัยต่อการบริโภคเช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลต่อเนื่องถึงความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมเกษตรที่ยั่งยืนในระยะยาวด้วย”
3 กลยุทธ์ปั้นสินค้าคุณภาพ มุ่งสู่เกษตรปลอดภัย
1.หานวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ
อารักขาพืชเจียไต๋มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ เสาะหาเทคโนโลยี พร้อมพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อนำนวัตกรรมต่างๆ มาต่อยอดความสำเร็จให้กับภาคเกษตรกรรมไทย ผลิตภัณฑ์จึงมีความหลากหลายพร้อมสำหรับการบำรุง เพิ่มผลผลิต และปกป้องพืชพันธุ์ ในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
2.โซลูชั่น คำตอบที่ใช่สำหรับเกษตรกร
อารักขาพืชเจียไต๋ ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมวิจัยและทดลองหาโซลูชั่นทางการเกษตรที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด รวมถึงตอบสนองต่อสภาพความแตกต่างในแต่ละพื้นที่ทำเกษตร โดยนำสินค้านวัตกรรมต่างๆ มาสร้างสรรค์เป็นโซลูชั่น หรือ สูตรสำเร็จทางการเกษตร แนะนำการใช้งานให้กับเกษตรกรตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ซึ่งช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนด้านปัจจัยการผลิต นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการใช้งานโซลูชั่นร่วมกับโดรนเพื่อการเกษตร เพื่อประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน อีกทั้ง เพิ่มความแม่นยำ และความปลอดภัย เช่น
- โซลูชั่นนาข้าว แบ่งช่วงการดูแลเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะคุมเลน ระยะคุม-ฆ่า และระยะบำรุงรวงอ่อน ทั้ง 3 โซลูชั่นแบบฉบับเจียไต๋เพื่อพี่น้องชาวนาได้ข้าวเต็มถัง เงินเต็มถุง
- โซลูชั่นทุเรียน อีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แบ่งการดูแลออกแบ่ง 12 ระยะ ตั้งแต่ระยะเพิ่มความสมบูรณ์ใบอ่อน 3 รุ่น ระยะส่งเสริมการออกดอก ระยะกระตุ้นตาดอก ระยะบำรุงหลังออกดอก ระยะกระตุ้นแตกใบอ่อน ระยะเพิ่มปริมาณการติดผล ระยะบำรุงผลอ่อน ในช่วง 1-3 เดือน ระยะเร่งการสุกและคุณภาพ
ซึ่งเกษตรกรที่ได้รับคำแนะนำและนำไปปรับใช้กับพื้นที่เกษตรของตนต่างการันตีผลลัพธ์ เพิ่มคุณภาพผลผลิตได้จริง
3.ทำงานใกล้ชิดลูกค้า เข้าใจพืชผล มอบคำแนะนำการใช้งานผลิตภัณฑ์
เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมาย อารักขาพืชเจียไต๋ได้ปรับปรุงระบบงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการบริการลูกค้าทั้งเกษตรกรและร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ด้วยการมอบคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการใช้งานที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างปลอดภัย ผ่านกิจกรรมอบรมและสัมมนาต่างๆ
ในส่วนของฝ่ายโรงงาน ได้ปรับระบบการทำงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมีมาตรฐานรองรับ นอกจากนี้ การส่งมอบผลิตภัณฑ์สู่มือลูกค้า อารักขาพืชเจียไต๋ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ อย่างระบบจัดการคลังสินค้า และระบบตรวจสอบย้อนกลับที่ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นทาง เช่น ข้อมูลการผลิต ล็อตสินค้า และคำแนะนำการใช้งาน
เพราะเกษตรปลอดภัยไม่ใช่เรื่องไกลตัว และเกษตรกรรมคือการผลิตอาหารของโลก ระบบการผลิตที่ดีนำมาซึ่งอาหารปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อให้อาชีพเกษตรกรรมที่เป็นวิถีชีวิตของสังคมไทยสามารถเป็นอาชีพที่มั่นคงขึ้นได้อย่างยั่งยืน อารักขาพืชเจียไต๋พร้อมที่จะนำเสนอสินค้าคุณภาพ พร้อมด้วยบริการ และโซลูชั่น ภายใต้หัวใจหลักเรื่องความปลอดภัยต่อ 3 มิติ ทั้งผู้คน (ผู้ใช้งานและผู้บริโภค) สังคม และสิ่งแวดล้อม