“เวียดนาม” ถือเป็นประเทศที่มีการผลิตใบชาและมีความนิยมในการดื่มชาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดใบชาเวียดนามได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายในสิ้นเดือนกันยายนปี 2024 มีการส่งออกใบชาเวียดนามไปแล้วประมาณ 108,000 ตัน เพิ่มขึ้น 31.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 189 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.2% เทียบกับช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่เวียดนามเป็นผู้ส่งออกชาอันดับ 8 ของโลก และมีรายได้ 135 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการส่งออกชาประมาณ 78,000 ตัน
Hoang Vinh long ประธานสมาคมใบชาเวียดนาม (Vietnamese Tea Associatio) กล่าวว่า เวียดนาม มีจังหวัดที่มีชื่อเสียงในการเพาะปลูกใบชา อย่าง Yen Bai, Ha Giang และ Son La (จังหวัดในภาคเหนือของเวียดนาม) ซึ่งถือเป็นจุดแข็งในการเพาะปลูกใบชาเนื่องจากสภาพอากาศและดินเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นชา ทำให้ได้ผลผลิตในปริมาณที่เยอะแม้จะมีพื้นที่เพาะปลูกที่ลดลง
อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญและผู้บริโภคจากต่างประเทศที่ชื่นชมคุณภาพใบชา และเชื่อมั่นว่าใบชาเวียดนามสามารถแข่งขันกับใบชาประเทศอื่น ๆ ได้ ทำให้ใบชาเวียดนามมีการส่งออกไปกว่า 100 ประเทศ โดยมีตลาดหลักได้แก่ ปากีสถาน ไต้หวัน รัสเซีย จีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป นอกจากนั้นยังมีการแปรรูปชาประมาณ 15 ประเภท โดยสินค้าหลักคือ ชาดำและชาเขียว
เมื่อเปรียบเทียบการบริโภคชาระหว่างประเทศและในประเทศในปี 2022 พบว่า ภายในประเทศมีการขายใบชาไป 48,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 325 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ด้านการส่งออกมีการส่งออกใบชาไปกว่า 146,000 ตัน สร้างมูลค่าประมาณ 237 ล้านเหรียญสหรัฐ
เนื่องจากใบชาเวียดนามมีราคาส่งออกยังไม่สูงมาก โดยมีราคาส่งออกเฉลี่ยน้อยกว่า ราคาของประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดียและศรีลังกาที่มีราคาสูงกว่าเวียดนามเฉลี่ย 35% และ 55 % จึงทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกชารายใหญ่อันดับที่ 5 ของโลก
จากข้อมูลของ TradelMax เผยว่าในปี 2022 เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 8 ของผู้ส่งออกชา โดยอันดับ 1 คือ จีน มีมูลค่าการส่งออก 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 คือ เคนย่า มูลค่า 1.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 3 คือ ศรีลังกา มูลค่า 1.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 4 อินเดีย มูลค่า 752 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 5 UAE มูลค่า 440 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 6 โปแลนด์ มูลค่า 253 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 7 เยอรมัน มูลค่า 235 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 8 เวียดนาม มูลค่า 223 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 9 ญี่ปุ่น มูลค่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐ และ อันดับ 10 อังกฤษ มูลค่า 123 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในขณะที่ประเทศไทย สินค้าในกลุ่มชาและผลิตภัณฑ์ชาที่ไทยส่งออกมากที่สุด คือ สินค้าชาสำเร็จรูป โดยในช่วงปี 2560 – 2564 ไทยส่งออกสินค้าชาสด ชาหมักและชาผงสำเร็จรูปเฉลี่ย 47.31 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ทั้งนี้ Nguyen Quoc Manh รองผู้อํานวยการกรมการผลิตพืชผลของเวียดนาม กล่าวว่า ปริมาณชาที่บริโภคในประเทศมีเพียงหนึ่งในสามของปริมาณการส่งออกชา แต่มูลค่าของการบริโภคภายในประเทศนั้นสูงกว่า เวียดนามจึงต้องหาวิธีเพิ่มมูลค่าการส่งออก ซึ่งยังคงเป็นเรื่องที่มีความท้าทายสําหรับอุตสาหกรรมชาของเวียดนามอย่างมาก
ที่มา : VietnamPlus