เศรษฐกิจชะลอตัว กดดันยอดขายรถจักรยานยนต์ ช่วง 7 เดือนแรก เหลือ 1.03 ล้านคัน ลดลง 9.8% ทำคนไทยหันซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง ส่วนใหญ่ซื้อลงทุน ชี้ราคาถูกกว่า 40-60%
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยชะลอตัว จากหนี้ครัวเรือนระดับสูง กดดันกำลังซื้อผู้บริโภค ส่งผลกระทบต่อยอดซื้อ-ขายรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ปี 2567
อ้างอิงข้อมูลศูนย์วิจัยธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุ ยอดซื้อขายรถจักรยานยนต์ช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ปีนี้ อยู่ที่ 1.03 ล้านคัน ลดลง 9.8% (YoY) จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขายได้ 1.14 ล้านคัน
โดยประเมินว่า ทั้งปี 2567 จะมียอดขายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.69 ล้านคัน ลดลง 8.9% (YoY) สวนทางกับปี 2566 ที่ภาพรวมเป็นบวก ขายได้ 1.86 ล้านคัน เติบโต 3.6% (YoY) และขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี
ด้วยกำลังซื้อชะลอตัวลง ทำให้ “รถจักรยานยนต์มือสอง” กลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และสร้างความคึกคักแก่ตลาด
นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตลาดรถจักรยานยนต์มือสองยังอยู่ในความสนใจของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มผู้บริโภครายย่อยและผู้ประกอบการให้ความสนใจประมูลซื้อค่อนข้างสูง
เนื่องจากจักรยานยนต์มือสองที่นำเสนอขายในปัจจุบันมีคุณภาพดีและราคาประหยัด หากเปรียบเทียบกับรถใหม่แล้วพบว่าราคาถูกกว่าประมาณ 40-60% จึงทำให้การประมูลทั้งในกรุงเทพฯ และสาขาทั่วประเทศได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดประมูลรถจักรยานยนต์มือสองในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมีความคึกคักตลอดเวลา เนื่องจาก มีผู้ประกอบการหน้าใหม่ให้ความสนใจลุงทุนในธุรกิจนี้มากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำการตลาด สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ขณะที่การลงทุนในธุรกิจขายรถจักรยานยนต์มือสองในปัจจุบันนี้ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก เนื่องจากรถที่นำมาประมูลส่วนใหญ่เป็นรถยึดจากไฟแนนซ์ราคาขายยังไม่สูง
และส่วนใหญ่มีคุณภาพดี เพราะรถบางคันมีอายุการใช้งานไม่ถึง 1 ปีซึ่งถือว่ายังอยู่ในสภาพเกรด A นอกจากนี้แล้วการประมูลในแต่ละครั้งมีสินค้าให้เลือกจำนวนไม่ต่ำกว่า 250-300 คัน