‘หลานม่า’ จากหนังที่คิดว่าทำเงินสูงสุด 80 ล้านก็ดีแล้ว สู่การสร้างหลายปรากฏการณ์ให้วงการหนังไทยบนเวทีโลก

วันนี้ ‘หลานม่า’ ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์เฉพาะเรื่องของรายได้ จากการเข้าฉายใน 36 ประเทศ สามารถกวาดรายได้ไปถึง 2,059 ล้านบาท แต่ยังสร้างประวัติศาสตร์หนังไทย ‘เรื่องแรก’ ที่เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 ในสาขา ‘ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม’ ซึ่งก่อนจะดังเปรี้ยงอย่างที่เห็น หนังเรื่องนี้เคยถูกตั้งไว้ว่า ทำรายได้ 80 ล้านบาทคือดีที่สุดแล้ว 

ย้อนกลับไปวันเริ่มต้นของการปั้นโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า How To Make Millions Before Grandma Dies ทาง ‘จินา โอสถศิลป์’ ซีอีโอ GDH เล่าว่า ทางบอร์ดบริหารมีการตั้งคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวของหนังจะมีความ sensitive หรือไม่ เนื่องจากมีเนื้อหาที่หลานตั้งใจจะเอามรดก 

แต่ด้วยความเก่งของโปรดิวเซอร์ (วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์) ของผู้กำกับ (พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์) ไปจนถึงการเขียนบทที่นำเสนอเรื่องความกตัญญู และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ซึ่งสามารถทำออกมาได้ดี จนกระทั่งหนังตัดต่อออกมา เมื่อเธอได้ดูแล้วทำให้รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก  

ส่วนหนังจะไปได้ไกลแค่ไหน คำตอบ ณ ตอนนั้น คือ ‘ไม่รู้’ 

แต่ด้วยความเชื่อ ‘หนังดี ทุกอย่างจะไปได้ดี’ ทำให้จินาตัดสินใจเรียกทีมงานทั้งหมดเข้ามาพูดคุย โดยถามกับทีมงานมั่นใจหรือไม่ว่าหนังเรื่องนี้ดีและสนุกพอ? ซึ่งทีมงานตอบว่า ‘มั่นใจ’ 

จึงนำมาสู่คำถามถัดไป ‘คิดว่า จะทำรายได้มากสุดที่เท่าไร’ 

คำตอบที่ได้รับจากทีมงานทุกคนคือ ‘80 ล้านบาทสุด ๆ แล้ว’ แต่เมื่อเธอได้เห็น cutting สุดท้ายของหนัง ทำให้จินามั่นใจและขอใช้สิทธิ์ซีอีโอฟันธง ‘หนังเรื่องนี้ต้องทำรายได้ 150 ล้านบาท’ ตอนนั้นหลายคนบอกว่า ‘เธอบ้าไปแล้ว’ เพราะด้วยเนื้อหามีความเป็นดราม่า ซึ่งอย่างที่ทราบกัน หนังดราม่า ‘ไม่ใช่หนังที่จะทำเงินได้มากมายนัก’ 

สำหรับการประสบความสำเร็จของหลานม่าอย่างที่เห็น เกิดขึ้นจากองค์ประกอบหลายอย่าง ทว่าพื้นฐานและเป็นสารตั้งต้นสำคัญของความสำเร็จ ก็คือ ‘ตัวหนังดี’ จากการที่ทุกคนทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดีที่สุด 

ถัดมา เป็นเรื่องของการตลาด ด้วยการใช้ Word of Mouth สร้างกระแส ‘หนังดี ต้องปากต่อให้คนมาดู’ ซึ่งเป็นวิธีที่จินาเคยใช้สร้างความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาแล้วกับหนังเรื่อง ‘แฟนฉัน’ โดยไม่ได้ใช้ Influencer ของหนังอย่างเดียว แต่เป็นการใช้เครือข่ายที่มีทั้งหมดเพื่อดึงคนเข้ามาให้มากที่สุด

“การไปดูหนังมันเสียทั้งเงินและเวลา ยิ่งตอนนี้มีสตรีมมิ่งเสิร์ฟความบันเทิงไปถึงบ้านด้วย คุณจะเอาชนะได้อย่างไร ซึ่งเราเอาชนะได้อย่างเดียวคือ ตัวงาน อันนี้คือพื้นฐาน ทำอย่างไรให้คนดูอดทนรอไปอีก 3-4 เดือนไม่ได้ ตอนนั้นที่ทำโฟกัส กรุ๊ป คนดูเสร็จคนชอบมาก ๆ มีเด็กผู้ชายอายุ 16 ร้องไห้ จนเรามั่นใจ”

จากหนังที่หลายคนมองว่า ทำรายได้ 80 ล้านบาทก็สุด ๆ แล้ว มาถึงวันนี้หลานม่า ได้สร้างหลายปรากฏการณ์ให้เห็นกับวงการหนังไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ที่ทำเงินไปถึง 2,059 ล้านบาท จากการเข้าฉายใน 36 ประเทศ และกวาดรางวัลจากเวทีประกวดมากมายทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ติด 15 เรื่องสุดท้ายที่เสนอเข้าชิงเวทีระดับโลกอย่าง รางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 ในสาขา ‘ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม’

ส่วนจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ติด Final list หนัง 5 เรื่องสุดท้ายที่เข้าชิงรางวัลจากเวทีระดับโลกนี้ได้หรือไม่ ต้องติดตามกันวันที่ 17 มกราคม 2025 ขณะที่งานดังกล่าวจะมีการประกาศรางวัลในวันที่ 2 มีนาคม 2025