บ้านมือสอง พุ่งสุดรอบ 15 ปี “คนรุ่นใหม่” เน้นรีโนเวต ชี้บ้านเก่าตั้งอยู่ทำเลทอง-ราคาดี

แม้ภาพรวมบ้านมือหนึ่งชะลอตัว โดยประเมินหน่วยเปิดตัวใหม่ลดลง 20-40% (อ้างอิง LWS) แต่ “บ้านมือสอง” กลับเติบโตสวนทาง จากเทรนด์คนรุ่นใหม่ หันรีโนเวตบ้านเก่า และซื้อบ้านมือสองทำเลดียังมาแรง ซึ่งมีราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่งในทำเลเดียวกันประมาณ 20-30%

เศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอตัว หนุนรีโนเวตบ้านมือสอง

นางศุภนิดา ตั้งตงฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมรัน พร็อพเทค จำกัด ในเครือ AP Thailand ผู้พัฒนาอสังหารายใหญ่ กล่าวว่า ตลาดรีโนเวตประเภทที่อยู่อาศัยได้รับความสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา

เบื้องต้น สถานการณ์ภาพรวมตลาดบ้านเก่าทั่วประเทศที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป มีมากกว่า 23.4 ล้านหลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 234,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 400,000 หลัง

“ในภาวะเศรษฐกิจไม่ฟื้น กำลังซื้อหดตัว ทำให้ดีมานด์ตลาดรีโนเวตเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2568”

นางศุภนิดา ตั้งตงฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมรัน พร็อพเทค จำกัด

ทั้งนี้ การรีโนเวตบ้าน จะใช้งบประมาณแตกต่างกันตามสภาพบ้าน ถ้าบ้านสภาพดี ใช้งบ 15-20% ของราคาขายของบ้าน เช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท ใช้งบรีโนเวต 3-4 แสนบาท เป็นต้น หรือหากเป็นบ้านที่ต้องใช้การพลิกโฉม ก็ต้องใช้งบสูงประมาณ 20-30% ของราคาขายบ้านนั้น ๆ หรือตกอยู่ 18,000-20,000 บาท/ตร.ม.

นอกจากนั้น ตลาดบ้านและคอนโดรีโนเวตพร้อมอยู่ก็มีการเติบโตขึ้นในปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก ”ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจซื้อบ้านเก่าที่อยู่ในโลเคชั่นที่ดี“ แต่ไม่อยากรีโนเวตปรับปรุงเอง เพราะไม่อยากเผชิญกับ 3 ปัญหาหลัก (Pain Point) ได้แก่

  • งบประมาณบานปลาย
  • คุณภาพงานที่ไม่ดี หรือ ไม่ได้มาตรฐาน
  • ปัญหาหาช่างยาก หรือช่างทิ้งงาน

ทำให้มีช่องว่างทางตลาดสำหรับบริษัทที่รับซื้อบ้านมารีโนเวต และขายออกแบบรีโนเวตใหม่พร้อมอยู่เป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่ง HOMERUN PROPTECH เป็นหนึ่งในนั้น

บ้านมือสองพุ่งสุดรอบ 15 ปี ยอดโอนกรรมสิทธิ์แซงมือหนึ่ง

ปัจจัยหลักการเติบโตตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง มาจากการขาดพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในเขตเมือง แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลเมืองยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนต้องการที่อยู่ใกล้แหล่งเดิมหรือสะดวกต่อการเดินทาง

หากมองในแง่มูลค่าตลาดบ้านมือสอง พบว่ามีการเติบโตขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองใน กทม.-ปริมณฑล ที่ขึ้นชื่อเป็นพื้นที่ที่มีข้อจำกัดสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ พบว่า

สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสอง (ทั้งแนวราบและคอนโด) ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และสูงสุดในรอบ 15 ปี รวมทั้งยังแซงสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านมือหนึ่งไปแล้ว โดยมูลค่ารวมของตลาดมือสอง อยู่ที่ 49,432 ล้านบาท สูงกว่า ตลาดบ้านมือหนึ่ง ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 43,263 ล้านบาท

เทียบสัดส่วนการโอนฯ ระหว่างบ้านมือหนึ่ง กับ บ้านมือสอง คาดตลอดทั้งปี 2567 บ้านมือสอง จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 54% ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่อยู่ระดับ 50% ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งเมื่อย้อนสถิติย้อนหลัง จะพบว่า เป็นตลาดที่มาแรงมากที่สุดในรอบ 15 ปี ตั้งแต่ปี 2552

HOMERUN รุกหนักตลาดรีโนเวตบ้านมือสองพร้อมขาย เป้ารายได้โต 100%

สำหรับ HOMERUN HOMERUN มีรูปแบบธุรกิจรับซื้อบ้านเข้ามาจากเจ้าของเดิม รีโนเวต และขายต่อให้เจ้าของใหม่ โดยเน้นบ้านในทำเลในเมืองหรือ “ไข่แดง” ของ กทม. เป็นหลัก ปัจจุบันพอร์ตฯ รับซื้อแบ่งเป็นคอนโด สัดส่วน 85% และบ้านแนวราบ (บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด) สัดส่วน 15%

ราคาทุกหลังจะเน้นความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรกับโครงการมือหนึ่ง โดยมีราคาเฉลี่ย 1 แสนต้นๆ – 1 แสนกลาง ๆ ต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกับมือหนึ่งใจกลางเมืองราคา 2 แสนบาทต่อตารางเมตร

ยกตัวอย่าง คอนโดรีโนเวตของ Homerun บนทำเล ทองหล่อ-เอกมัย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเกือบ 120 ตารางเมตร ที่เราขายในราคา 13.9 ล้านบาท หรือตกตารางเมตรละ 120,000 บาท ซึ่งถ้าหากไปซื้อโครงการมือหนึ่งในโลเคชั่นใกล้กันอาจจะได้ห้องพื้นที่เพียง 60 ตารางเมตรในงบประมาณที่เท่ากัน

คอนโด

ทั้งนี้ ประเมินว่า กลุ่มธุรกิจนี้มีโอกาสและอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากมีความต้องการจากตลาด

ขณะเดียวกันธุรกิจบ้านและคอนโดรีโนเวตยังไม่ได้มีบริษัทในธุรกิจนี้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทมหาชนที่ให้ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง

อีกทั้งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนทางเอพี ทำมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีจะสามารถช่วยหนุนให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญได้ในอีกปีต่อจากนี้

“ในปี 2568 บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 100% เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”