ในยุคปัจจุบันประเทศไทยเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้างต่างๆ เช่น ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งส่งผลต่อโอกาสและความเสี่ยงต่อผลตอบแทนการลงทุนในตลาดเงินทั้งของไทย และของโลก ซึ่งการลงทุนในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว
ในขณะเดียวกันผู้ลงทุนต่างพยายามมองหาโอกาสทางการลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับพอร์ตของตัวเอง แต่ข้อจำกัดอย่างนึงที่พบเห็นได้บ่อยๆ นั่นคือ เมื่อปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน จะได้ชุดมุมมองการลงทุนในระยะสั้นกลับมาเท่านั้น ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงขึ้น หรือ สินทรัพย์ต่างประเทศ
KAsset เป็นบลจ.แรกในไทยที่มองเห็นโอกาส และความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี จึงได้จัดทำบทวิจัยอย่างเจาะลึก ถือเป็นการตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญในการมองแนวโน้มตลาดระยะยาวได้ชัดเจนกว่าบลจ.อื่นๆ สร้างความแตกต่างและเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งเลยก็ว่าได้
KAsset จึงเปิดตัวบทวิจัย “KAsset Capital Market Assumptions” (KCMA) ประจำปี 2568 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับ J.P. Morgan Asset Management เป็นผลงานที่เกิดจากความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานร่วมกันของทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 คน จาก 4 ทีมบริหารการลงทุนหลักทั้งจากบลจ.กสิกรไทย และ J.P. Morgan Asset Management
บทวิจัย KCMA จัดทำขึ้นมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนไทยโดยเฉพาะ โดยต่อยอดมาจากบทวิจัย”Long-Term Capital Market Assumptions” (LTCMAs) ของJ.P. Morgan Asset Management ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ บทวิจัย KCMA เป็นชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและละเอียดมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย โดยนำเสนอมุมมองเชิงลึกทั้งในมิติของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ผลตอบแทน และความเสี่ยงของสินทรัพย์กว่า 100 ประเภทในระยะเวลา 10-15 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุน โดยเฉพาะผู้ลงทุนสถาบัน ผู้จัดการกองทุน หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำ ได้นำบทวิจัยนี้ไปใช้ต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในสายอาชีพของตัวเอง
ในส่วนของ KAsset เองก็ได้นำข้อมูลจากบทวิจัยนี้มาใช้บริหารกองทุน Multi-asset portfolio เช่น กองทุนในกลุ่ม K-WealthPLUS Series รวมถึงการนำมาใช้ในการวางแผนสินทรัพย์ให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามกลุ่มช่วงอายุของสมาชิก (Life Path Solution) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน
เรียกได้ว่าบทวิจัยชิ้นนี้เป็นก้าวสำคัญบทใหญ่ของวงการการลงทุนในประเทศไทย ที่มีการผนึกกำลังของกูรูแถวหน้าของเมืองไทย ที่มีความแข็งแกร่งด้านการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้สามารถใช้เป็นแผนที่นำทางสำหรับนักลงทุนในปัจจุบัน มองไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตระยะยาวได้อย่างแน่นอน