ถ้าก่อนหน้านี้เมืองไทยสร้างกระแสซีรีส์วายแนว Boys Love ให้กลายเป็น Soft Power โด่งดังไปทั่วโลกได้แล้ว ตอนนี้ประเทศไทยได้ถือกำเนิดซีรีส์ Girls Love หรือแซฟฟิก (หรือบางคนอาจจะเรียกว่ายูริ) ด้วยเช่นกัน ปั้นนักแสดงคู่จิ้นดังเป็นพลุแตก พรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์ รุมเพียบ
ซีรีส์วาย Soft Power ตัวจริงของไทย
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสของคู่จิ้น คู่วายยังเป็นที่นิยมในไทย ด้วยการแจ้งเกิดจากคอนเทนต์กลุ่มซีรีส์ต่างๆ ในช่วงแรกเป็นเฉพาะกลุ่มมากๆ มีคนชื่นชอบแบบกลุ่มเล็กๆ คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะอยู่ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ที่ต้องสมัครสมาชิกถึงจะดูคอนเทนต์ได้ อย่างเช่น WeTV, LINE TV เป็นต้น แต่ปัจจุบันช่องใหญ่ๆ ต่างบรรจุเป็นคอนเทนต์หลัก และฉายในเวลาไพรม์ไทม์แล้วด้วย
ซึ่งซีรีส์วายมีที่มาจากคำว่า ยาโอย (Yaoi) โดยจะเรียกสั้นๆ ว่า วาย (Y) เป็นวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นโดยเนื้อหาในซีรีส์เหล่านี้จะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของชาย-ชายทั้งในเรื่องของความรักและความสัมพันธ์ หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่าแนว Boys Love แต่ในช่วงหลังเริ่มมีซีรีส์วายแนว Girls Love ออกมามากขึ้น เป็นคู่ของหญิง-หญิง
ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งความแปลกใหม่ของคอนเทนต์ และนักแสดงหน้าใหม่ เคมีของนักแสดงที่เข้ากันได้ดี ทำให้ซีรีส์วายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แจ้งเกิดนักแสดงมากมาย สร้างคู่จิ้นในวงการ ซึ่งในปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่ได้เลือกคู่จิ้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่
ข้อมูลจาก SCB EIC เคยมีการวิเคราะห์ตลาดซีรีส์วาย พบว่า ประเทศไทยขึ้นแท่นผู้นำการผลิตซีรีส์วายเบอร์ 1 ของโลก ที่ผ่านมามีการออกอากาศรวมทั้งสิ้นกว่า 340 เรื่อง และนับตั้งแต่ปี 2565 มีการเปิดตัวมากกว่าปีละ 50 เรื่อง
จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2557 ซีรีส์วายเปิดตัวออกมาไม่ถึง 10 เรื่อง อาทิ Love Sick The Series ทว่าปี 2567 ซีรีส์วายเปิดตัวกว่า 71 เรื่อง (วาย และยูริ) อาทิ ใจซ่อนรัก หยดฝนกลิ่นสนิม การุณยฆาต เขียนรักด้วยยางลบ เป็นต้น “เมื่อเทียบจากจุดเริ่มต้น เรียกว่าซีรีส์วายมีการเติบโต 700%”

มีการประเมินมูลค่าตลาดซีรีส์วาย ปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่า 4,900 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีสัดส่วน 3.9% ของสื่อบันเทิงไทยโดยรวม เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ตลาดซีรีส์วายมีมูลค่า 851 ล้านบาท เท่ากับเติบโตราวๆ 479%
อีกทั้งยังมีการประเมินว่า ซีรีส์วาย มีส่วนช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยในปี 2568 ให้มีมูลค่า 126,000 ล้านบาท เติบโต 4.1%
Girls Love มาแรง “หลิง-ออม” ฟีเวอร์
ในปี 2567 ตลาดซีรีส์วายเอเชีย ถือว่าเป็นภูมิภาคหลักของการผลิตซีรีส์วาย ประเทศไทยขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในสัดส่วน 53% ตามมาด้วยญี่ปุ่น 13% เกาหลีใต้ 9% และไต้หวัน 6% ส่วน ซีรีส์ยูริไทย ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อปีก่อนภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้น Girl love ของไทยออกอากาศมากกว่า 40 เรื่อง หรือคิดเป็น 60% ของเอเชีย รองลงมาเป็นฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นฐานผู้ชมสำคัญของซีรีส์วายไทย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มแจ้งเกิดคู่จิ้นยูริทั้ง อิงฟ้า-ชาล็อต, ฟรีน-เบ็คกี้ และฝ้าย-โยโกะ ล่าสุดหนีไม่พ้น “หลิง-ออม” ขึ้นแท่นคู่จิ้นยูริ หรือคู่จิ้น GL เบอร์หนึ่งในไทย พร้อมกวาดงานพรีเซ็นเตอร์ และออกงานอีเวนต์คู่มากมาย
ทั้งหลิงหลิง และออม มีผลงานในวงการบันเทิงมาบ้าง โดยที่ “หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง” เป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง เดินสายเส้นทางนางงามมาก่อนที่จะเข้าวงการบันเทิง ส่วน “ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” มีผลงานละครมากมาย แต่เริ่มเป็นที่รู้จักจากเรื่องมาตาลดา
หลิง-ออม แจ้งเกิดจากซีรีส์เรื่องใจซ่อนรัก (The Secret of Us) ออกอากาศทางช่อง 3 หลายคนต่างยกให้ว่าเป็นเคมีฟ้าประทาน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นซีรีส์ยูริเรื่องแรกของช่อง 3 เลยก็ว่าได้ เป็นการกล้าที่จะท้าทายสิ่งใหม่ และก็ได้ผลตอบรับอย่างดี จนช่อง 3 คิกออฟเรื่องที่ 2 ในทันที “เพียงเธอ Only You The Series” โดยยังได้หลิง-ออม มาแสดงนำเช่นเคย
ความนิยมของหลิง-ออม การันตีด้วยรางวัลจากหลากหลายเวที เช่น ใจซ่อนรัก คว้ารางวัลซีรีส์ยอดนิยมจากงาน FEED Y AWARDS 2024, รางวัล Best GL Series of the Year (ซีรีส์ Girls’ Love แห่งปี) จากงาน Y Entertain Awards 2024
นอกจากนี้ 2 สาว ยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย โดย หลิงหลิง คอง ได้รับรางวัล Princess of Girls’ Love (นักแสดงนำ Girls’ Love พราวเสน่ห์) จากงาน Y Entertain Awards 2024, รางวัลสาวเจ้าเสน่ห์แห่งปี (CHARMING FEMALE OF THE YEAR) จากงาน MAYA TV AWARDS 2024 และรางวัล THE 50 INFLUENTIAL PEOPLE 2024 จากงาน HOWE AWARDS 2024
ทางด้าน ออม กรณ์นภัส ก็คว้ารางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัล Leading Girls’ Love Star of the Year (นักแสดงนำ Girls’ Love แห่งปี) จากงาน Y Entertain Awards 2024 และรางวัล THE 50 INFLUENTIAL PEOPLE 2024 รางวัลเกียรติยศจาก HOWE AWARDS 2024 ทั้งคู่ยังเดินสายจัดงานแฟนมีตติ้งในหลายประเทศ
พรีเซ็นเตอร์เข้าเพียบ
ปรากฏการณ์หลิง-ออมฟีเวอร์ ยังสะท้อนได้จากการได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์จากแบรนด์ต่างๆ เริ่มจาก Watsons เลือกทั้งคู่เป็น Friends of Watsons เปรียบเหมือนเพื่อนที่คอยดูแลสุขภาพ และความงามให้คนไทย โดยไม่ใช่คำว่าพรีเซ็นเตอร์โดยตรง
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ของแบรนด์เวชสำอาง Smooth E ซึ่งใช้โอกาสในการรีแบรนด์ครั้งใหม่ไปในตัว และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ THE TOUCH CLINIC เป็นคลินิกด้านความงาม นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ Cathy Doll และแพนทีนอีกด้วย
ความนิยมของหลิง-ออม รวมไปถึงคู่จิ้นอื่นๆ ยังสะท้อนถึงความก้าวหน้าของวงการบันเทิง และความเปิดกว้างของสังคมไทย ที่มองความสัมพันธ์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งกระแสของคู่จิ้น ซีรีส์วาย ยังสร้างมูลค่าแก่วงการบันเทิงมหาศาลด้วยเช่นกัน และยังสร้าง Soft Power ให้เมืองไทยอีกด้วย